ยุติธรรมจังหวัดนครราชสีมา จัดโครงการจัดทำบันทึกความร่วมมือ MOU (memorandum of understanding) บูรณาการหน่วยงานในการอำนวยความยุติธรรมจังหวัดนครราชสีมา และ โครงการประกวดศูนย์ยุติธรรมชุมชนดีเด่นจังหวัดนครราชสีมา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564
วันที่ 6 สิงหาคม 2564 ณ ห้องประชุมมูลนิธิท้าวสุรนารี ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา โดย นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าจังหวัดนครราชสีมา ประธานพร้อมด้วย นายวิเชียร ไชยสอน ผู้อำนวยการสำนักงานยุติธรรมจังหวัดนครราชสีมาในโครงการจัดทำบันทึกความร่วมมือ MOU (memorandum of understanding) บูรณาการหน่วยงานในการอำนวยความยุติธรรมจังหวัดนครราชสีมา และ โครงการประกวดศูนย์ยุติธรรมชุมชนดีเด่นจังหวัดนครราชสีมา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 กล่าวและ ดร.ยลดล หวังศุภกิจโกศลนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) จังหวัดนครราชสีมา ท้องถิ่นจังหวัดนครราชสีมา แรงงานจังหวัดนครราชสีมา ประธานมูลนิธิพุทธธรรมนครราชสีมา (ฮุก 31) ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครราชสีมา พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครราชสีมา นายกเทศมนตรี/นายกองค์การบริหารส่วนตำบล คณะกรรมการศูนย์ยุติธรรมชุมชน ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ทุกท่าน
นายวิเชียร ไชยสอน ผู้อำนวยการสำนักงานยุติธรรมจังหวัดนครราชสีมากล่าวในปัจจุบันสถานการณ์ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมนั้นยังมีอยู่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระบวนการยุติธรรมของไทยนั้นปฏิเสธไม่ได้ว่ายังมีช่องว่าง ระหว่างคนรวยกับคนคนจน ไม่ว่าจะเป็นคำพูดที่เราได้ยินประจำ “คุกมีไว้ขังคนจน” “คนรวยนอนบ้าน ขอทานนอนคุก” ถ้ามีปัญญาก็ไปฟ้องเอา ต่างๆเหล่านี้ล้วนสะท้อนปัญหาการเข้าไม่ถึงประบวนการยุติธรรมของประชาชนได้เป็นอย่างดี สืบเนื่องจากกระบวนการยุติธรรมเป็นระบบกล่าวหา มีกระบวนการ ขั้นตอน ตามระเบียบกฎหมาย ที่มีเงื่อนไขบังคับให้ประชาชนผู้ที่ต้องเข้าสู่กระบวนการ จำเป็นต้องมีค่าใช้จ่าย ทำให้เกิดปัญหาสำหรับคนที่ไม่มีฐานะทางการเงินที่ดี ไม่สามารเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้อย่างสะดวก จึงเกิดคำพูดอย่างที่กล่าวข้างต้น กระทรวงยุติธรรมซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการแก้ไขปัญหาด้านบริหารจัดการกระบวนการยุติธรรม ได้เพิ่มโอกาสการเข้าถึงความยุติธรรม (Access to Justice) แก่ประชาชนด้วยการพัฒนาแนวคิด“ยุติธรรมชุมชน (Community Justice) ” ให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรมโดยการสร้างเครือข่ายยุติธรรมชุมชน (คยช.) และการจัดตั้งศูนย์ยุติธรรมชุมชน (ศยช.) ทั่วประเทศ และจังหวัดนครราชสีมา ได้จัดตั้งขึ้นจำนวน 333 ศูนย์กระจายอยู่ทุกอบต.และเทศบาล โดยมีวัตถุประสงค์ 2 ประการ ได้แก่ (1)ช่วยเหลือประชาชนในทางกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมและการไกล่เกลี่ยประนอมข้อพิพาทในชุมชน (2) เสริมสร้างศักยภาพและความเข้มแข็งด้านกฎหมายและความยุติธรรมแก่ประชาชน โดยกำหนดกรอบภารกิจหลักของระบบยุติธรรมชุมชนออกเป็น 5 ด้าน ได้แก่
1.การเฝ้าระวังและป้องกันปัญหาอาชญากรรม การทุจริตและประพฤติมิชอบและการกระทำผิดกฎหมายต่างๆ ในชุมชน
2.การรับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ปัญหาความไม่เป็นธรรมของประชาชน และรับแจ้งเบาะแสข้อมูลการกระทำความผิดกฎหมายต่างๆ ตลอดจนการช่วยเหลือ ดูแล ให้คำแนะนำ และแก้ไขปัญหาในเบื้องต้นแก่ผู้ได้รับความเดือดร้อน หรือผู้ที่ต้องการคำแนะนำเบื้องต้นทางกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม
3.การไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาทหรือความขัดแย้งในชุมชนตามหลักความยุติธรรม เชิงสมานฉันท์ การเสริมสร้างความสมานฉันท์ในชุมชน และการติดตามดูแลให้มีการปฏิบัติตามข้อตกลงที่ได้มีการไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาทหรือความขัดแย้งนั้น
4.การให้ความช่วยเหลือ ดูแลผู้ที่ได้รับความเสียหายหรือผลกระทบจากอาชญากรรมและประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตามหน้าที่
5.ให้ความช่วยเหลือ สงเคราะห์ และบำบัดแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำความผิดและผู้พ้นโทษให้กลับตนเป็นพลเมืองดีและไม่หวน
ด้านนายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าจังหวัดนครราชสีมา
กล่าวเปิดด้วยสถานการณ์ปัญหาความเหลื่อมล้ำในกระบวนการยุติธรรมของไทยนั้น ยังคงทวีความรุนแรงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคำพูดที่เราได้ยินประจำ “คุกมีไว้ขังคนจน” “คนรวยนอนบ้าน ขอทานนอนคุก” ถ้ามีปัญญาก็ไปฟ้องเอา ต่างๆ เหล่านี้ล้วนสะท้อนปัญหาการเข้าไม่ถึงกระบวนการยุติธรรมของประชาชนได้เป็นอย่างดี สืบเนื่องจากกระบวนการยุติธรรมเป็นระบบกล่าวหา มีกระบวนการ ขั้นตอน ตามระเบียบกฎหมาย ที่มีเงื่อนไขบังคับให้ประชาชนหรือผู้ที่ต้องเข้าสู่กระบวนการต้องมีค่าใช้จ่าย ทำให้เกิดปัญหาสำหรับคนที่ไม่มีฐานะหรือเงินมากพอ ที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้อย่างสะดวก และเกิดคำพูดอย่างที่กล่าว แม้หลายหน่วยงาน จะเข้ามาช่วยในการดูแลและอำนวยความยุติธรรมอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการไกล่เกลี่ยหันเหคดีออกจากศาลหรือการแก้ปัญหาร้องเรียน ร้องทุกข์ เพื่อสร้างความเป็นธรรมในสังคมให้มีความรวดเร็วและครอบคลุมมากขึ้นก็ตาม แต่ปัญหาการเข้าไม่ถึงความยุติธรรมของประชาชนก็ยังไม่มีทีท่าลดลง ปัญหาสำคัญประการหนึ่ง คือกระบวนการอำนวยความยุติธรรมดังกล่าว
สรุปผลการตัดสินการประกวดศูนย์ยุติธรรมชุมชนประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๔
ศูนย์ยุติธรรมชุมชน รางวัลอบต.หนองแวง อ.เทพารักษ์ รางวัลศูนย์ยุติธรรมชุมชนดีเด่นจังหวัดนครราชสีมา ประจำ พ.ศ.๒๕๖๔
ชนะเลิศ ๒. อบต.พระพทฺธ อ.เฉลิมพระเกียรติ รางวัลศูนย์ยุติธรรมชุมชนดีเด่นจังหวัดนครราชสีมา ประจำ พ.ศ.๒๕๖๔
รองชนะเลิศลำดับที่ ๑เทศบาลตำบลโพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา
รางวัลศูนย์ยุติธรรมชุมชนดีเด่นจังหวัดนครราชสีมา ประจำ พ.ศ.๒๕๖๔
รองชนะเลิศลำดับที่ ๒เทศบาลตำบลช่องแมว รางวัลศูนย์ยุติธรรมชุมชนดีเด่นจังหวัดอ.ลำทะเมนชัย นครราชสีมา ประจำ พ.ศ.๒๕๖๔
ด้านการช่วยเหลือประชาชน ๕. อบต.เมืองพลับพลา รางวัลศูนย์ยุติธรรมชุมชนดีเด่นจังหวัดอ.ห้วยแถลง นครราชสีมา ประจำ พ.ศ.๒๕๖๔
ด้านการช่วยเหลือประชาชนอบต.ตลาดไทร อ.ชุมพวง รางวัลศูนย์ยุติธรรมชุมชนดีเด่นจังหวัดนครราชสีมา ประจำ พ.ศ.๒๕๖๔
ระดับดีเยี่ยม ๗. อบต.จระเข้หิน อ.ครบุรี รางวัลศูนย์ยุติธรรมชุมชนดีเด่นจังหวัดนครราชสีมา ประจำ พ.ศ.๒๕๖๔
ระดับดีเยี่ยมอบต.วังโพธิ์ อ.บ้านเหลื่อม รางวัลศูนย์ยุติธรรมชุมชนดีเด่นจังหวัดนครราชสีมา ประจำ พ.ศ.๒๕๖๔