“เกษตรพ่อพอเพียง” กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวภายใต้โครงการพัฒนาศักยภาพและยกระดับสินค้า และบริการท่องเที่ยว

“เกษตรพ่อพอเพียง” กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวภายใต้โครงการพัฒนาศักยภาพและยกระดับสินค้า และบริการท่องเที่ยว

วันที่ 20 กรกฎาคม 2562 นางปิยะฉัตร อินสว่าง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ประธานเปิดงาน “ เกษตรพ่อพอเพียง” ภายใต้โครงการพัฒนาศักยภาพและยกระดับสินค้าและบริการท่องเที่ยวและกีฬา ณ ศูนย์วิจัยการอนุรักษ์ดินและน้ำ อ.ปากช่อง จังหวัดนครราสีมา โดย นายสุรสิทธิ์ สิงห์หลง ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมาร่วมกับศูนย์วิจัยการอนุรักษ์ดินและน้ำ อำเภอปากช่อง สมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรปากช่อง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้กำหนดจัดกิจกรรม “เกษตรพ่อพอเพียง” ภายใต้โครงการพัฒนาศักยภาพและยกระดับสินค้าและบริการการท่องเที่ยวและกีฬา (ผลผลิตการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวและบริการ) กิจกรรม การพัฒนาแหล่งการท่องเที่ยวและกิจกรรมท่องเที่ยว

โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อขยายอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ เพื่อสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยว ภายในงานได้จัดกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การเสวนาทำฝนหลวงในพื้นที่อำเภอปากช่อง การอบรมการปลูกน้อยหน่าเพื่อการค้าอย่างมืออาชีพ และการศึกษาดูงาน แปลงสาธิตการผลิตน้อยหย่าฝ้ายเขียวเกษตร การอบรมการจัดการห่วงโซ่คุณค่าทุเรียนไทยในตลาดจีน การอบรมเกษตรโดยใช้ชีวภาพจุลทรีย์และการป้องกันกำจัดหนอนกระทู้ลายจุดในข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ การอบรมเกษตรอินทรีย์ วิถีไทยมาตรฐานโดยใช้ศาสตร์พระราชาการแสดงธรรมเทศนา “เกษตรพ่อพอเพียง” โดยพระมหาสุทัศน์ วชิรญาโน (หัสดิน) อุทยานธรรมภูชี้ฟ้า บ้านร่มฟ้าไทย ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย การแสดงดนตรีโฟล์คซองของโรงเรียนในพื้นที่อำเภอปากช่องของโรงเรียนปากช่อง๑ การแสดงศิลปิน ติ๊ก ชิโร่และคณะการแสดงดนตรีโฟล์คซองของโรงเรียนในพื้นที่อำเภอปากช่องของโรงเรียนปากช่อง๑ และการแสดงวงดนตรีผสม เติ้ล ขลุ่ยไทย และวงชื่นใจ กิจกรรม “ เกษตรพ่อพอเพียง” ครั้งนี้ได้รับความอนุเคราะห์สถานที่ในการจัดจากศูนย์วิจัยการอนุรักษ์ดินและน้ำ อำเภอปากช่อง ได้รับความอนุเคราะห์แสดงจากโรงเรียนในพื้นที่อำเภอปากช่อง และความร่วมมือสมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรปากช่อง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมาและยกระดับศักยภาพสินค้าบริการการเกษตรตามรอยเกษตรของพ่อ ให้ยั้งยืนของจังหวัดนครราชสีมาต่อไป

ดีไซน์เนอร์ไทยไม่แพ้ชาติใดในโลกปล่อยของ “ชุดประจำจังหวัด” สุดอลังการสมราคา

ดีไซน์เนอร์ไทยไม่แพ้ชาติใดในโลกปล่อยของ “ชุดประจำจังหวัด” สุดอลังการสมราคา

ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานกองประกวด มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ ผู้ฉีกกฏการประกวดแบบเดิมๆ เข้าสู่การประกวดนางงามยุค 4.0 นอกจากสวยพร้อมใช้แล้ว นางงามเวทีแกรนด์ ต้องมีสมองและความสามารถรอบด้าน เข้าถึงแฟนนางงามทุกกลุ่ม ตามสโลแกน #นับจากนี้ทุกพื้นที่มีแต่แกรนด์ ทำให้วันนี้เวที มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ ก้าวกระโดดสู่แถวหน้า สร้างกระแส “โลกต้องจำ” พร้อมขึ้นทำเนียบ เวทีอันดับหนึ่งของประเทศไทย ไปเป็นที่เรียบร้อย

มิสแกรนด์ ไทยแลนด์  ถือเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในการยกระดับและพัฒนาอุตสาหกรรมนางงามไทย ผ่านการประกวดค้นหาสาวงามตัวแทนระดับประเทศจาก 77 จังหวัดทั่วไทย โดยมุ่งหวังที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างโอกาสให้กับทุกคนที่มีส่วนร่วมในการประกวดฯ ตั้งแต่นางงามไปจนถึงทีมงานผู้อยู่เบี้องหลัง ไม่ว่าจะเป็นผู้จัดงานระดับจังหวัด ผู้สนับสนุน ทีมงานจัดงาน ช่างภาพ ช่างแต่งหน้า ช่างทำผม นักออกแบบ ร้านตัดเย็บเสื้อผ้า หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ฯลฯ ให้ทุกคนได้มีโอกาส มีพื้นที่ในการแสดงผลงานของตนเอง ที่อาจกลายเป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่ในระดับโลก ตลอดจนผู้ชมในท้องที่ระดับจังหวัด ได้มีกิจกรรมดีๆ ที่สร้างความสนุกสนาน และ ความบันเทิงให้กับทุกท่าน รวมถึงผู้ชมระดับประเทศที่เข้าชมงานประจำทุกปี และเวทีการประกวด มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ ยังเป็นลิขสิทธิ์โดยคนไทย ที่มีผลการตัดสินที่บริสุทธิ์ยุติธรรมมากที่สุดอีกด้วย

ค่ำคืนนี้เวทีการประกวด มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2019 ลุกเป็นไฟอีกครั้ง เมื่อ ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานกองประกวด มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ เปิดเวทีอลังการงานสร้างให้สุดยอดดีไซน์เนอร์จากทุกจังหวัด จัดแต่งองค์ทรงเครื่องให้กับผู้เข้าประกวด มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2019 ทั้ง 77 จังหวัด ในการประกวดรอบ ชุดประจำจังหวัด เพื่อคัดเลือกผู้เข้ารอบ “ชุดประจำจังหวัดยอดเยี่ยม” ซึ่งต้องยอมรับว่าดีไซน์เนอร์ไทยไม้แพ้ชาติใดในโลกจริงๆ ต่างงัดไม้เด็ดนำมาออกแบบ ผสานการตัดเย็บจากผ้าไทย และวัสดุที่งดงาม ประณีตทุกกระเบียด ส่วนน้ำหนักของชุดก็ไม่ธรรมดา แบกกันมาหลายสิบกิโลเลยทีเดียว ผสานกับเอกลักษณ์ การนำเสนอของแต่ละชุดนั้นยิ่งเพิ่มความน่าสนใจ และสร้างความหนักใจให้กับคณะกรรมการไม่น้อยทีเดียว โดยวันนี้จะทำการคัดเลือก ชุดประจำจังหวัดให้เหลือเพียง 20 ชุดสุดท้าย ก่อนจะเปิดให้แฟนนางงามทั่วประเทศร่วมโหวตชุดที่ชื่นชอบมากที่สุดผ่านทาง Facebook : Miss Grand Thailand โดยสามารถเข้าไปกด LIKE ใต้ภาพชุดประจำจังหวัดที่คุณชื่นชอบได้ทันที ยอด LIKE 10 อันดับจะตกเป็นของจังหวัดใด ต้องไปลุ้นกันวินาทีต่อวินาที นับตั้งแต่วันนี้ จนกว่าจะปิดโหวตในวันที่ 12 กรกฎาคม 2562 เวลา 17.00 น. จากนั้นคณะกรรมการจะเป็นผู้คัดเลือกให้เหลือเพียง 5 ชุดสุดท้าย

สำหรับผู้ชนะเลิศรางวัลชุดประจำจังหวัดยอดเยี่ยม (Best National Costume) จะได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท (หนึ่งแสนบาทถ้วน)  สนับสนุนเงินรางวัลโดย บริษัทเมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ส่วนรองชนะเลิศทั้ง 4 ตำแหน่ง จะได้รับเงินรางวัล รางวัล ละ 30,000 บาท โดยจะประกาศผลผู้ชนะในวันเสาร์ที่ 13 กรกฎาคม 2562 ถ่ายทอดสด 100 เปอร์เซ็นต์ เวลา 22.30 น. ทางช่อง 7 HD

ทุกท่านสามารถเกาะติดทุกกิจกรรมการประกวด มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2019 ได้จากทุกช่องทาง Facebook, Instagram, Twitter, Youtube และ www.missgrandthailand.com  โดยเฉพาะ Star Phone Application *789 สามารถดาวน์โหลดได้ฟรี กับโทรศัพท์มือถือทุกระบบซึ่ง Star Phone Application *789 สามารถ Vote ให้ มิสแกรนด์ จังหวัดที่ชื่นชอบได้ตลอด สำหรับการประกวด มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ หรือหาซื้อบัตรเข้าชมการประกวดสดๆได้ที่ ฮอลล์ 100 ไบเทคบางนา อย่าพลาดติดตามข่าวสารและจองบัตรก่อนเข้าชมได้ที่ www.missgrandthailand.com

โคราชแถลงข่าวการจัดงานแห่เทียนพรรษาประจำปี 2562

โคราชแถลงข่าวการจัดงานแห่เทียนพรรษาประจำปี 2562

เมื่อวันที่ 9 ก.ค.62 เวลา 17.00 น. ที่ผ่านมาแถลงข่าวการจัดงานแห่เทียนพรรษาโคราช ประจำปี2562 ณ วัดโพธิ์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา ประธาน วัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา ททท.จังหวัดนครราชสีมา ตำรวจภูธรภาค3 เทศบาลอำเภอพิมายพร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ร่วมแถลงข่าวแห่เทียนโคราช ประจำปี 2562 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-17 ก.ค. 62 ณ บริเวณสวนเมืองทอง สวนสุรนารี ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี เพื่อสืบสานประเพณีแห่เทียนพรรษา และส่งเสริมอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย โดยจะมีขบวนแห่ในวันที่ 17 ก.ค.62 เวลา 08.30 น. ภายในงานประกอบด้วยขบวนแห่ต้นเทียนพรรษา การแสดงศิลปวัฒนธรรม สินค้า OTOP อาหารพื้นเมือง การแสดง แสง สี เสียง นิทรรศการต่างๆ ณ วัดโพธิ์ จังหวัดนครราชสีมา

โดยในปีนี้จังหวัดนครราชสีมาได้จัดประเพณีแห่เทียนพรรษา มีขบวนเทียนพรรษาจากวัดต่างๆ ใน จ.นครราชสีมา เข้าร่วมประกวดรวมกว่า 30 ขบวนเทียน ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัลรวมกว่า 1 ล้านบาท ขบวนเทียนพรรษาทั้งหมด จะเริ่มออกจากจุดปล่อยขบวนตั้งแต่บริเวณถนนมหาดไทยตัดราชดำเนินตรงไปถนนจอมสุรางค์ผ่านคลังพลาซ่า เพื่อให้ประชาชนได้ชมความสวยงาม ซึ่งขบวนเทียนพรรษาที่โดดเด่นปีนี้ มีอยู่หลายวัด เช่น ของวัดโพธิ์ อ.เมือง ภายในงานงานประเพณีแห่เทียนพรรษาโคราช ประจำปี 2562 จังหวัดนครราชสีมา มีการจัดกิจกรรม ได้แก่ การประกวดต้นเทียนพรรษา, การประกวดขบวนแห่เทียน, การประกวดประดิษฐ์ต้นเทียน, พิธีเจริญพระพุทธมนต์, ขบวนแห่เทียนพรรษารอบเมือง กว่า 7 กิโลเมตรซึ่งจัดขึ้น บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี สำหรับกำหนดการจัดงานของปีนี้คือวันที่ 16-17 กรกฎาคม 2562

น้ำผุด โคราช ไอเดียเก๋ เปิดให้มีพายเรือคายัค เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดนครราชสีมา

น้ำผุด โคราช ไอเดียเก๋ เปิดให้มีพายเรือคายัค เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดนครราชสีมา

ที่ผ่านมา  ดร.สุรสิทธิ์  สิงห์หลง  ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา  ได้ชวนคณะสื่อมวลชน ในจังหวัดนครราชสีมา นำโดย นายฐิติรัตน์  พงษ์พุทธรักษ์  นายกสมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา   เพื่อลงพื้นที่ อำเภอป่าช่อง จังหวัดนครราชสีมา ไปที่บ่อนำพุธรรมชาติ ที่บ้านท่าช้าง ตำบลหมูสี ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเดิม ตามที่นักท่องเที่ยวเคยรู้จัก

โดยทางเทศบาลตำบลหมูสี  ได้มีการเปิดให้มีการท่องเที่ยวเชิงศึกษาธรรมชาติ  ด้วยการพายเรือคายัค สัมผัสธรรมชาติ 2 ข้างลำน้ำที่เย็นสบาย  ระยะทาง 1.5 กิโลเมตร(รวมไป-กลับ) และมีเจ้าหน้าที่ดูแลตลอดเส้นทาง  โดยการให้บริการพายเรือนี้  จะเปิดให้บริการเฉพาะวันหยุด  (เสาร์-อาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์) ค่าบริการอยู่ที่ ระยะสั้น  50 บาท/คน  ระยะยาว 150/คน    นอกจากนี้ หากโชคดี  จะได้พบกับตัวตะกอง ที่เป็นสัตว์ประจำลำน้ำ ลำตะคอง ที่กำลังจะสูญพันธุ์ไป โดยตัวตะกองนี้  มีลักษณะคล้ายกิ้งก่า ขนาดใหญ่ พบเห็นได้ในพื้นที่ อ.ปากช่อง เท่านั้น

สระน้ำผุด หรือ บ่อน้ำพุธรรมชาติบ้านท่าช้าง ตั้งอยู่ในตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง เป็นตาน้ำที่มีน้ำไหลมาตลอดปี มีน้ำผุดออกมาโดยธรรมชาติ โดยน้ำที่ผุดขึ้นมาเป็นน้ำฝนที่ตกไปอยู่ในใต้ดินและก่อนที่จะผุดขึ้นมาจากผิวดินก็ได้รับการกรองจากก้อนหิน ที่มีแคลเซียมคาร์บอเนตสูง ทำให้น้ำมีความใส ลักษณะของน้ำมีสีฟ้าเขียวมีคุณสมบัติความเป็นด่างของน้ำนั่นเองคล้ายกับ สระมรกตที่กระบี่ น้ำจะใสมาก

ที่ตั้ง : อยู่ในสวนกาญจนาภิเษก ต. หมูสี อ. ปากช่อง จ.นครราชสีมา

โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัยคว้ารางวัลชนะเลิศ  European Open Champion 2019 ในการประกวด Rasteder Musiktage ครั้งที่ 64

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกลุ่มนักเรียนของไทยไปสร้างชื่อในต่างประเทศอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งได้แก่วงโยธวาทิตโรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย จังหวัดนครราชสีมา ที่สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศ  European Open Champion 2019 ในการประกวด Rasteder Musiktage ครั้งที่ 64 ที่เมือง Rasteder ประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ประเภท show band ในจำนวนทีมที่เข้าแข่งขันทั้งหมด 21 ทีม จาก 9 ประเทศ เมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา ทั้งนี้วงโยธวาทิตโรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย ได้รับรางวัลชนะเลิศถ้วยรางวัลยูโรเปี้ยน โอเพ่น แชมเปี้ยนชิฟ2019 ด้วยคะแนนรวม 90.50 และรางวัลชนะเลิศ การแสดงประเภท VIII B ด้วยคะแนนรวม89.67 โดยวงโยธวาทิตโรงเรียนราชสีมาวิทยาลัยมีกำหนดเดินทางกลับถึงประเทศไทย ในวันที่ 6 กรกฎาคม 2562 นี้.

กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน โดยสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา จัดการแข่งขันระดับภาคคัดยอดฝีมือมือสู่สากล

กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน โดยสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา จัดการแข่งขันระดับภาคคัดยอดฝีมือมือสู่สากล

วันที่ 4 กรกฎาคม 2562 นายวิรัช  คันศร  ผู้ตรวจราชการกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ได้ ให้สัมภาษณ์ความเป็นมาของการจัดการแข่งขันฝีมือแรงงานแห่งชาติ ครั้งที่  28 ระดับภาค จะจัดขึ้นระหว่างวันที่  3-5 กรกฎาคม 2562  ณ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา ซึ่งจะมีการแข่งขันใน 6 กลุ่มสาขาอาชีพ  จำนวน 25 สาขา  โดยมี นายจรัสชัย  โชคเรืองสกุล  รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดการแข่งขัน  ในการจัดงานครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีสำหรับเยาวชนได้แสดงความสามารถ ด้านทักษะฝีมือในการประกอบอาชีพ ได้ฝึกฝนอบรมในแขนงต่าง ๆ จากหลากหลายสังกัด จำนวน  256 คน   ที่เข้าแข่งขันเพื่อคัดเลือกให้เป็นตัวแทนระดับภาคเข้าไปแข่งขันในระดับชาติในปี พ.ศ. 2563 ต่อไป

นายวิรัช  คันศร  ผู้ตรวจราชการกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวว่า  สืบเนื่องจากการที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดงานแนะแนวอาชีพ และการแข่งขันฝีมือช่างแห่งชาติ ครั้งที่ ๑  เมื่อวันที่ ๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๑๓  ณ ลุมพินีสถาน กรุงเทพฯ และทรงมีพระราชดำรัสในพิธีเปิดงาน โดยทรงกล่าวถึงปัญหาเรื่องช่างฝีมือ ซึ่งต้องปรับปรุงให้มีความประณีต และมีประสิทธิภาพได้มาตรฐาน จากพระราชดำรัสของพระองค์ ทรงแสดงถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีความห่วงใยต่อกำลังแรงงานของไทย และทรงให้ความสำคัญกับมาตรฐานงานช่างของคนไทยเป็นอย่างยิ่ง

ในช่วงกว่า ๔๙ ปีที่ผ่านมา กระทรวงแรงงาน โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงานจึงได้จัดการแข่งขันฝีมือแรงงานแห่งชาติอย่างต่อเนื่องตลอดมา รวม ๒๗ ครั้ง และในปี พ.ศ. ๒๕๖๒ นี้ จะเป็นการแข่งขันฝีมือแรงงานแห่งชาติ ครั้งที่ ๒๘ ระดับภาค มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีสำหรับเยาวชนได้แสดงความสามารถด้านทักษะฝีมือในการประกอบวิชาชีพ ที่ได้ฝึกฝนอบรมมาในแขนงต่างๆ กลุ่มเป้าหมายเป็นผู้เข้าแข่งขันซึ่งเป็นเยาวชนมาจากหลากหลายสังกัด อาทิ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา  สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดในเครือข่าย (ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ และนครยก) และเยาวชนผู้ปฏิบัติงานในสถานประกอบการเป็นต้น เข้าร่วมการแข่งขันใน ๖ กลุ่มสาขาอาชีพ จำนวนรวม ๒๕ สาขา มีผู้สมัครจำนวน 406 คน ผ่านการคัดกรองเข้าแข่งขัน จำนวน 256 คน  จำแนกเป็น

๑. กลุ่มสาขาอาชีพเทคโนโลยีก่อสร้างและอาคาร จำนวน ๖ สาขา ได้แก่สาขาก่ออิฐ    ปูกระเบื้อง ไม้เครื่องเรือน  ต่อประกอบมุมไม้  เทคโนโลยีระบบทำความเย็น และเทคโนโลยีระบบไฟฟ้าภายในอาคาร

๒. กลุ่มสาขาอาชีพแฟชั่นและครีเอทีฟ จำนวน ๓ สาขา ได้แก่สาขาจัดดอกไม้ แฟชั่นเทคโนโลยี และกราฟิกดีไซน์

๓. กลุ่มสาขาอาชีพเทคโนโลยีการสื่อสาร จำนวน ๒ สาขา ได้แก่สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ และเว็บดีไซน์

๔. กลุ่มสาขาอาชีพเทคโนโลยีอุตสาหกรรมการผลิต จำนวน ๙ สาขา ได้แก่ สาขาเขียนแบบวิศวกรรมเครื่องกลด้วยคอมพิวเตอร์ เครื่องจักรกล CNC (เครื่องกลึง) เครื่องจักรกล CNC (เครื่องกัด) เทคโนโลยีงานเชื่อม อิเล็กทรอนิกส์ และสาขาแมคคาทรอนิกส์ หุ่นยนต์เคลื่อนที่ มาตรวิทยาด้านมิติ ระบบอัตโนมัติทางอุตสาหกรรม จำนวน ๔ สาขา ซึ่งเป็นการแข่งขันประเภททีมเยาวชน

๕. กลุ่มสาขาบริการส่วนบุคคลและสังคม จำนวน  ๓  สาขา  ได้แก่สาขาแต่งผม ประกอบอาหาร และบริการอาหารและเครื่องดื่ม

๖. กลุ่มสาขาอาชีพขนส่งและโลจิสติกส์ จำนวน ๒ สาขา ได้แก่สาขาเทคโนโลยียานยนต์ และสีรถยนต์

การแข่งขันในแต่ละสาขาใช้เวลาไม่เกิน 12 ชั่วโมง  หรือ 2 วัน สามารถปรับเพิ่ม – ลดได้ โดยคำนึงถึงความเหมาะสม  ซึ่งผู้ที่ชนะจะได้รับเงินรางวัลจากการแข่งขัน ดังนี้

  1. การแข่งขันประเภททีมเยาวชน

-เหรียญทอง                        รางวัลละ   20,000 บาท

-เหรียญเงิน                        รางวัลละ   12,000 บาท

-เหรียญทองแดง                    รางวัลละ     6,000 บาท

  1. การแข่งขันประเภทเยาวชน

-เหรียญทอง                        รางวัลละ   10,000 บาท

-เหรียญเงิน                        รางวัลละ     6,000 บาท

-เหรียญทองแดง                    รางวัลละ     3,000 บาท

การแข่งขันจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๓ – ๕ กรกฎาคม ๒๕๖๒ ณ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน ๕ นครราชสีมา และบุญถาวร สาขาโคราช  ซึ่งจัดการแข่งขันในสาขาปูกระเบื้อง และสาขาก่ออิฐ โดย   ผู้ชนะการแข่งขันจะได้รับคัดเลือกเป็นผู้แทนระดับภาค เข้าร่วมการแข่งขันในระดับชาติ ในปี พ.ศ. ๒๕๖๓

อนึ่ง การจัดการแข่งขันครั้งนี้ ได้มีสถานประกอบการที่เห็นความสำคัญด้านการพัฒนาศักยภาพของเยาวชนไทย ผ่านกิจกรรมการแข่งขัน ได้ให้การสนับสนุน เครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์การแข่งขันสาขาต่างๆ จำนวน ๑๐ ราย ได้แก่ บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน), บริษัท บุญถาวรเซรามิค จำกัด,บริษัทนิปปอนเพนต์ (ประเทศไทย) จำกัด,บริษัท อาร์.พี.เอส.ซัพพลาย จำกัด,         บริษัทพรภัทร เอ็นเตอร์ไพร์ส จำกัด, บริษัทสยามนิสสันนครราชสีมา จำกัด สาขาปากช่อง, บริษัทมิตซูปฐพีทอง จำกัด สาขาปากช่อง,บริษัท ตังปักโคราช จำกัด สาขาสีคิ้ว, ห้างหุ้นส่วนจำกัด โตโยต้าโคราช ๑๙๘๘ และบริษัท โคราชฮอนด้าออโตโมบิล จำกัด เป็นต้น  นอกจากนี้ภายในงานยังมีการสาธิตอาชีพของสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดในเครือข่าย อาทิเช่น การแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร การสาธิตอาชีพการทำปลาท่องโก๋และสังขยา สาธิตอาชีพการทำเกี๊ยวซ่า สาธิตอาชีพการทำข้าวเหนียวหมูฝอย สาธิตอาชีพการทำน้ำสมุนไพร สาธิตอาชีพการทำเฉาก๊วยโบราณ  สาธิตอาชีพการทำขนมกุยช่ายทอด  สาธิตอาชีพการทำขนมไทย สำหรับผู้ที่สนใจจะเข้าชมการแข่งขันฝีมือแรงงานแห่งชาติ ครั้งที่ 28 ระดับภาค สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา กม. 99 ถนนมิตรภาพ  อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา โทรศัพท์ 044 416947

พิธีเปิดงานน้อยหน่าและของดีเมืองปากช่องประจำปี 2562

พิธีเปิดงานน้อยหน่าและของดีเมืองปากช่องประจำปี 2562

ที่ผ่านมา อำเภอปากช่องจังหวัดนครราชสีมาได้จัดให้มีพิธีเปิดงานน้อยหน่าและของดีเมืองปากช่องประจำปี 2562 ในวันจันทร์ที่ 1 กรกฎาคม 2562 ณ เวทีกิ่งกาชาดอำเภอปากช่องสนามข้างโรงทอกระสอบ  อำเภอปากช่อง  จังหวัดนครราชสีมา

โดยนายสุรพันธ์  ศิลปสุวรรณ นายอำเภอปากช่อง  ได้กล่าวรายงานต่อ  นายจรัสชัยโชคเรืองสกุล  รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา  ที่ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดงานน้อยหน่าและของดีเมืองปากช่องประจำปี 2562  โดยงานนี้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีระหว่างวันที่ 1 – 12 กรกฎาคม  ของทุกปี  โดยมีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร มาสู่การปฏิบัติ  เพื่อเป็นการตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่โดยจัดสถานที่จำหน่ายสินค้าผลผลิตทางการเกษตรในลักษณะของตลาดนัดประชารัฐให้แก่ประชาชนโดยเฉพาะผลไม้ชนิดต่างๆ  เพื่อส่งเสริมและพัฒนาอาชีพทางด้านการเกษตรให้แก่เกษตรกรที่มีการพัฒนาสายพันธุ์และคุณภาพของผลผลิตทางการเกษตรอย่างต่อเนื่อง  เพื่อส่งเสริมและพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ OTOP ของตำบล  ตลอดจนการจัดแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางเกษตร และเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในอำเภอปากช่องเป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวในฐานะประตูสู่อีสาน

ซึ่ง ในงานนี้ได้รับความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วนและการสนับสนุนจากองค์กรภาคเอกชนหลายหน่วยงาน  มีการออกร้านและหน่วยงานต่างๆเพื่อให้ความรู้และประโยชน์แก่ผู้ที่มาเที่ยวชมงาน และมีการประกวดผลไม้รวมทั้งการจัดกระเช้าผลไม้ของเกษตรกรชาวอำเภอปากช่อง  นอกจากนี้ยังได้มีการประกวดธิดาน้อยหน่าประจำปี 2562 อีกด้วย

ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต 3 นครราชสีมา  ส่งเสริมและพัฒนาทักษะด้านการประกอบอาชีพภายใต้โครงการคืนคนดีสู่สังคมประจำปีงบประมาณ 2562

ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต 3 นครราชสีมา  ส่งเสริมและพัฒนาทักษะด้านการประกอบอาชีพภายใต้โครงการคืนคนดีสู่สังคมประจำปีงบประมาณ 2562

วันนี้ที่ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน   เขต 3  จังหวัดนครราชสีมาได้จัดโครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะด้านการประกอบอาชีพภายใต้โครงการคืนคนดีสู่สังคมประจำปีงบประมาณ 2562  โดย ดร.รัตนะ  วรบัณฑิต  ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน  เขต  3  จังหวัดนครราชสีมา   ในนามคณะทำงานจัดโครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะด้านการประกอบอาชีพภายใต้โครงการคืนคนดีสู่สังคมประจำปีงบประมาณ 2562 ได้กล่าวรายงานต่อ  คุณณัฐภัสสร  สุนทรฐณะวัฒน์  รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนที่ได้ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฯ   ซึ่งเด็กและเยาวชนที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมส่วนหนึ่งเป็นกลุ่มเด็กและเยาวชนที่มีฐานะครอบครัวยากจน ,ครอบครัวไม่มีความพร้อม  และไม่สามารถสนับสนุนหรือส่งเสริมโอกาสทางการศึกษาทั้งสายสามัญและสายอาชีพให้กับเด็กและเยาวชนได้   ทำให้เด็กและเยาวชนขาดความรู้ความสามารถและทักษะที่จะสามารถนำไปใช้ประกอบอาชีพ  เพื่อสร้างความมั่นคงในชีวิตและรายได้ให้กับตนเอง

โดยการดำเนินโครงการดังกล่าว   ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน   เขต  3  จังหวัดนครราชสีมา   ได้รับมอบหมายจากกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนให้ดำเนินการจัดกิจกรรมสำหรับหน่วยงานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ   โดยมีกิจกรรมส่งเสริมอาชีพอิสระพร้อมการสาธิตจากเรือนจำกลางนครราชสีมาร่วมกับวิทยาลัยการบริหารธุรกิจและการท่องเที่ยวนครราชสีมา  วิทยาลัยเทคโนโลยีชื่นชมไทยเยอรมันสระบุรี ,บ้านขนมไทย ,ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีบ้านมะค่า ,สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดบุรีรัมย์ร่วมกับร้านพร้อมสวยชาย – หญิง(บริการตัดผมฟรี) สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดบุรีรัมย์ร่วมกับโรงเรียนสอนธัชพลตัดผมสตรีและบุรุษและหน่วยงานอื่นๆอีกมากมาย  ที่ร่วมเป็นภาคีเครือข่ายในการให้การสนับสนุนด้านวิชาชีพให้กับเด็กภายในศูนย์ฝึก ฯ แห่งนี้

ป.ป.ส.ภาค 3 จัดอบรมเชิงปฏิบัติการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พ.ศ. 2563-2565

ป.ป.ส.ภาค 3 จัดอบรมเชิงปฏิบัติการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พ.ศ. 2563-2565

สืบเนื่องจากสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ประกาศแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561-2580) อันมีสาระสำคัญเกี่ยวกับ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ จำนวน 23 ประเด็น โดยในประเด็นที่ 1 ประเด็นความมั่นคง ได้กำหนดแผนย่อยเรื่องการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง โดยมีเป้าหมายสำคัญเกี่ยวกับการแก้ปัญหาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรและการพัฒนาประเทศ และมีการกำหนดตัวชี้วัด คือ ระดับความสำเร็จของการแก้ไขปัญหาความมั่นคงในปัจจุบันดีขึ้นอย่างน้อย ร้อยละ 50 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) ในฐานะหน่วยงานที่มีภารกิจหลักในการอำนวยการขับเคลื่อนนโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติดของประเทศ จึงจำเป็นจะต้องดำเนินการยกร่างแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) เพื่อวางกรอบ ทิศทางในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ในระดับประเทศ เพื่อรองรับยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง และกำหนดจัดทำแผนปฏิบัติการ ด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดระดับภาค ระยะ 3 ปี (พ.ศ. 2563-2565) เพื่อวางแนวทางในการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้สอดคล้องกับบริบทสถานการณ์ในพื้นที่ ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้


ผู้สื่อข่าวรางานว่าวันที่ 18 มิถุนายน 2562 นายวีรวัฒน์ เต็งอำนวย รองเลขาธิการ ป.ป.ส ประธานประชุม
นายอดุล ประยูรสิทธิ (ผอ.ปปส.ภาค 3)กล่าวรายงาน
ในพิธีเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พ.ศ. 2563-2565 รองรับยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 – 20 มิถุนายน 2562 ณ ห้องสีมาธานีบอลรูม บี ชั้น L โรงแรมสีมาธานี อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา โดยการประชุมในครั้งนี้ ประกอบด้วย ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ส. หน่วยงานภาคี และเครือข่ายภาคประชาชนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบด้วยจังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ยโสธร ศรีสะเกษ สุรินทร์ อำนาจเจริญ อุบลราชธานี กาฬสินธุ์ ขอนแก่น นครพนม บึงกาฬ มหาสารคาม มุกดาหาร ร้อยเอ็ด เลย สกลนคร หนองคายหนองบัวลำภู และอุดรธานี ผู้แทนเจ้าหน้าที่หน่วยงานภาคี ระดับภาค
โดยกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ จำนวน 170 คน ประกอบด้วย
1. กองทัพภาคที่ 2
2. ตำรวจภูธรภาค 3 / ตำรวจภูธรภาค 4
3. ตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 2
4. ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดน
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
5. หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง
6. ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัด
7. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด
8. ตำรวจภูธรจังหวัด
9. ศึกษาธิการจังหวัด
10. เครือข่ายภาคประชาชน
11. เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ส. ส่วนกลาง / ภาค 3 / ภาค 4
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดระดับภาค พ.ศ. 2563-2565 รองรับยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง และแผน ปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. 2563 ให้สอดคล้องกับบริบทสถานการณ์ในระดับพื้น


นายอดุล ประยูรสิทธิ (ผอ.ปปส.ภาค 3)กล่าว กระผม หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดประชุมในครั้งนี้ ทุกหน่วยงานภาคีในพื้นที่จะได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ มุมมอง แนวคิด และประสบการณ์ การทำงานด้านยาเสพติดในพื้นที่ พร้อมทั้งร่วมกันระดมความคิดเห็นในการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดระดับภาค พ.ศ. 2563-2565 รองรับยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง ให้สำเร็จลุล่วงและบรรลุตามวัตถุประสงค์ต่อไป สำนักงาน ปปส.ภ.3 และ ปปส.ภ.4 ในฐานะเป็นหน่วยรับผิดชอบอำนวยการขับเคลื่อนนโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงได้จัดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พ.ศ. 2563-2565 รองรับยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง เพื่อบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จะได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ มุมมอง แนวคิด และประสบการณ์ด้านยาเสพติด
ในพื้นที่ พร้อมทั้งร่วมกันระดมความคิดเห็นในการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดระดับภาค พ.ศ. 2563-2565 รองรับยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง และแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดพ.ศ. 2563 ให้สอดคล้องกับบริบทสถานการณ์ในระดับพื้นที่

 

พิธีเททองนำฤกษ์ พระชัยเมืองนครราชสีมา รุ่น ฉลองจังหวัดนครราชสีมา ครบ 345 ปี

วันนี้ 17 มิ.ย.62 เวลา 15.00 น.ณ ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา ในพิธี ได้นำหลอมรวมเททองนำฤกษ์และ พระสังฆาธิการ 9รูป ได้สวดเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อปรกอธิษฐานจิตเจริญ พระเกจินั่งปรก 4 รูปสี่ทิศนามมงคล 1 พระครูศาลาธรรมพินิจ หลวงพ่อเงิน วัดบ้านอ้อ อำเภอโนนไทย 2 พระครูวิสุทธิ์วิทยาคม หลวงพ่อทองสุทธสีโล วัดบ้านไร่ อำเภอด่านขุนทด 3 พระครูประโชติติปัญญากร หลวงพ่อคูณวรปญโญวัดบัลลังค์ อำเภอโนนไทย 4 พระครูสุนทรคุณวัตร วัดหลวงพ่อทวีปัญญาธโร วัดประมวลราษฎร์ จังหวัดนครราชสีมา ใน โดยมีพระธรรมวรนายกที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 11 เจ้าอาวาสวัดพระนารายณ์มหาราชวัดมหาวิหาร ประธานฝ่ายสงฆ์ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาประธาน นางปิยะฉัตร อินสว่างรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาร่วมพิธี นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ชุดปัจจุบัน (ชุดที่ 23)และ นายวัชรพล โตมรศักดิ์ พรรคชาติพัฒนา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ชุดปัจจุบัน (ชุดที่ 23)พร้อมด้วยนางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมาและเหล่าข้าราชการ ประชาชน300กว่าคน


สำหรับพิธี เททองนำฤกษ์ พระชัยเมืองนครราชสีมา รุ่น ฉลองจังหวัดนครราชสีมา ครบ 345 ปี ณ ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีมีวัตถุประสงค์การจัดสร้างพระชัยเมืองเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการบูรณะศาลหลักเมืองจังหวัดนครราชสีมากิจการสาธารณะประโยชน์การกุศลในจังหวัดนครราชสีมาและในปีพศ 2562 นี้ถือว่าเป็นวาระมงคลจังหวัดนครราชสีมาครบรอบ 345 ปีโดยจากเดิมตั้งอยู่ในพื้นที่เขตอำเภอสูงเนินในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงมีรับสั่งให้ย้ายเมืองนครราชสีมาเมื่อปีพ. ศ. 2217ผู้สื่อข่าวรายงาน ใน มวลสารศักดิ์สิทธิ์นำมาหลอมร่วมจัดสร้างพระชัยเมืองนครราชสีมามวลสารจากเจ้าคณะอำเภอ 32 อำเภอในจังหวัดนครราชสีมาแผ่นจารทองเงินจากเจ้าคุณธงชัยวัดไตรมิตรแผ่นจารและวัตถุมงคลเก่าของหลวงพ่อคูณวัดบ้านไร่หลวงปู่นิลและอาจารย์ฟั่นตะกรุดและพระเครื่องเก่าของหลวงพ่อจงหลวงปู่สีหลวงปู่ดุล ฯลฯแผ่นจารอักขระและมวลสารเก่าครูบาบุญชุ่มครูบาแบ่งและครูบากฤษณะและพระธรรมวรนายกที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 11 เจ้าอาวาสวัดพระนารายณ์มหาราชวัดมหาวิหาร ประธานฝ่ายสงฆ์ นำพระเหรียญพระชัยเมืองนครราชสีมารุ่น ฉลองจังหวัดนครราชสีมา ครบ 345 ปีแจกให้เหล่าข้าราชการ ประชาชนทั่วไปคนละ1เหรียญโดยทีด้านหน้าซองเขียนว่า (นำฤกษ์)จนแจกไม่พอ บางเจ้าหน้าที่นำไปเป็นจำนวนมากทำให้แจกไม่ถ้วนหน้า ในเวลาต่อมาช่างหลอมก็ได้ทุบเป้าหลอมพระชัยเมืองให้ประชาชนที่มาร่วมในพิธีดูรูปลักษณะของพระชัยเมือง


สำหรับผู้สนใจสอบถามรายละเอียดสั่งจองได้ที่ทำการปกครองจังหวัดจังหวัดนครราชสีมาศาลากลางชั้น 2 โทร 0 4 4- 2 5 2 8 2 0 โทร 0 6 3 -9 0 1 2 8 4 8, 089- 8 3 8 8 5 7 7ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ facebook พระชัยเมืองนครราชสีมารุ่นฉลองจังหวัดนครราชสีมาครบรอบ 345 ปี


ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่าโดยมีรายละเอียดการจัดสร้างพระชัยเมืองดังนี้รูปหล่อพระชัยเมืองขนาด 9 นิ้วรุ่นนำโชคประกอบด้วยพระชัยเมืองนครราชสีมาขนาด 9 นิ้วปิดทองแท้ 1 องค์พระชัยเมืองนครราชสีมาขนาด 9 นิ้วนำฤกษ์ 1องค์จัดสร้าง 99 ชุดบูชาชุดละ19,999 บาท2 รูปหล่อพระชัยเมืองนครราชสีมาขนาด 9 นิ้วเนื้อทองเหลืองรมดำจัดสร้าง 999 องค์บูชา 3,999 บาท3 รูปหล่อพระชัยเมืองนครราชสีมาขนาด 9 นิ้วเนื้อทองเหลืองรมดำปัดทองจัดสร้าง 999 องค์บูชา 3,999 บาท4 รูปหล่อพระชัยเมืองขนาด 5.9″เนื้อทองเหลืองรมดำจัดสร้าง 999 องค์บูชา 1,999 บาทรูปหล่อพระชัยเมืองนครราชสีมาขนาด 5.9 เนื้อทองเหลืองรมดำปัดทองจัดสร้าง 999 องค์บูชา 1999 บาทเหรียญพระชัยเมืองนครราชสีมาเนื้อชนวนมวลสาร 9999เหรียญ อีกด้วย