ป.ป.ส.ภาค 3 จัดอบรมเชิงปฏิบัติการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พ.ศ. 2563-2565

ป.ป.ส.ภาค 3 จัดอบรมเชิงปฏิบัติการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พ.ศ. 2563-2565

สืบเนื่องจากสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ประกาศแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561-2580) อันมีสาระสำคัญเกี่ยวกับ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ จำนวน 23 ประเด็น โดยในประเด็นที่ 1 ประเด็นความมั่นคง ได้กำหนดแผนย่อยเรื่องการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง โดยมีเป้าหมายสำคัญเกี่ยวกับการแก้ปัญหาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรและการพัฒนาประเทศ และมีการกำหนดตัวชี้วัด คือ ระดับความสำเร็จของการแก้ไขปัญหาความมั่นคงในปัจจุบันดีขึ้นอย่างน้อย ร้อยละ 50 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) ในฐานะหน่วยงานที่มีภารกิจหลักในการอำนวยการขับเคลื่อนนโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติดของประเทศ จึงจำเป็นจะต้องดำเนินการยกร่างแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) เพื่อวางกรอบ ทิศทางในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ในระดับประเทศ เพื่อรองรับยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง และกำหนดจัดทำแผนปฏิบัติการ ด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดระดับภาค ระยะ 3 ปี (พ.ศ. 2563-2565) เพื่อวางแนวทางในการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้สอดคล้องกับบริบทสถานการณ์ในพื้นที่ ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้


ผู้สื่อข่าวรางานว่าวันที่ 18 มิถุนายน 2562 นายวีรวัฒน์ เต็งอำนวย รองเลขาธิการ ป.ป.ส ประธานประชุม
นายอดุล ประยูรสิทธิ (ผอ.ปปส.ภาค 3)กล่าวรายงาน
ในพิธีเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พ.ศ. 2563-2565 รองรับยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 – 20 มิถุนายน 2562 ณ ห้องสีมาธานีบอลรูม บี ชั้น L โรงแรมสีมาธานี อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา โดยการประชุมในครั้งนี้ ประกอบด้วย ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ส. หน่วยงานภาคี และเครือข่ายภาคประชาชนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบด้วยจังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ยโสธร ศรีสะเกษ สุรินทร์ อำนาจเจริญ อุบลราชธานี กาฬสินธุ์ ขอนแก่น นครพนม บึงกาฬ มหาสารคาม มุกดาหาร ร้อยเอ็ด เลย สกลนคร หนองคายหนองบัวลำภู และอุดรธานี ผู้แทนเจ้าหน้าที่หน่วยงานภาคี ระดับภาค
โดยกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ จำนวน 170 คน ประกอบด้วย
1. กองทัพภาคที่ 2
2. ตำรวจภูธรภาค 3 / ตำรวจภูธรภาค 4
3. ตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 2
4. ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดน
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
5. หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง
6. ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัด
7. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด
8. ตำรวจภูธรจังหวัด
9. ศึกษาธิการจังหวัด
10. เครือข่ายภาคประชาชน
11. เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ส. ส่วนกลาง / ภาค 3 / ภาค 4
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดระดับภาค พ.ศ. 2563-2565 รองรับยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง และแผน ปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. 2563 ให้สอดคล้องกับบริบทสถานการณ์ในระดับพื้น


นายอดุล ประยูรสิทธิ (ผอ.ปปส.ภาค 3)กล่าว กระผม หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดประชุมในครั้งนี้ ทุกหน่วยงานภาคีในพื้นที่จะได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ มุมมอง แนวคิด และประสบการณ์ การทำงานด้านยาเสพติดในพื้นที่ พร้อมทั้งร่วมกันระดมความคิดเห็นในการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดระดับภาค พ.ศ. 2563-2565 รองรับยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง ให้สำเร็จลุล่วงและบรรลุตามวัตถุประสงค์ต่อไป สำนักงาน ปปส.ภ.3 และ ปปส.ภ.4 ในฐานะเป็นหน่วยรับผิดชอบอำนวยการขับเคลื่อนนโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงได้จัดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พ.ศ. 2563-2565 รองรับยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง เพื่อบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จะได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ มุมมอง แนวคิด และประสบการณ์ด้านยาเสพติด
ในพื้นที่ พร้อมทั้งร่วมกันระดมความคิดเห็นในการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดระดับภาค พ.ศ. 2563-2565 รองรับยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง และแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดพ.ศ. 2563 ให้สอดคล้องกับบริบทสถานการณ์ในระดับพื้นที่

 

ผู้ว่าเปิดอบรมจริยธรรมหนุนนำชีวิต

             ‘นายวิเชียร จันทรโณทัย’  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการเปิดอบรมจริยธรรมตามโครงการ ‘ค่ายวิถีธรรม หนุนนำชีวิต’ ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม – 4 สิงหาคม 2561 ณ สำนักสงฆ์บ้านตลุกยาง ตำบลหนองแจ้งใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา โดยได้รับความร่วมมือจากสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดนครราชสีมาและอำเภอบัวใหญ่ ถือเป็นโครงการนำร่องแห่งแรกในจังหวัดนครราชสีมา และได้รับพระกรุณาธิคุณจาก ‘ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี’ องค์ประธานโครงการทูบีนัมเบอร์วันร่วมสนับสนุนครั้งนี้อีกด้วย

                วันที่ 31 กรกฎาคม 2561 เวลา 15.30 น. ที่ สำนักสงฆ์บ้านตลุกยาง ตำบลหนองแจ้งใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการนำเยาวชนที่ติดยาเสพติดอบรมจริยธรรมตามโครงการ ‘ค่ายวิถีธรรม หนุนนำชีวิต’ ณ สำนักสงฆ์บ้านตลุกยาง  อ.บัวใหญ่ ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม – 4 สิงหาคม 2561 โดยได้รับความร่วมมือจากสำนักงานคุมประพฤติอำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมาและอำเภอบัวใหญ่ และถือว่าเป็นโครงการนำร่องขัดเกลาเยาวชนให้ห่างไกลยาเสพติดแห่งแรกในจังหวัดนครราชสีมา โดยมีเยาวชนและผู้ถูกคุมประพฤติจำนวน 35 คน เข้าอบรมในโครงการนี้ หวังให้โอกาสกลับเป็นคนดีคืนสู่สังคม

นอกจากนี้ ทางผู้ว่าวิเชียร จันทรโณทัย ยังได้มอบเงินทุนสงเคราะห์ช่วยเหลือครอบครัวผู้ผ่านการบำบัดฟื้นฟูยาเสพติดที่ยากจนจำนวน 20,000 บาท  จำนวน 3 ทุน และทุนเพื่อประกอบอาชีพเลี้ยงสุกรอีก 3,000 บาทจำนวน 1 ทุน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ และเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2561

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า การแพร่ระบาดของยาเสพติดของเยาวชนยอมรับว่ามีมาก ซึ่งทางจังหวัดเราเองและทางตรวจทหารรวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ช่วยกันปราบปรามอย่างเต็มที่  ซึ่งก็มีหลายโครงการที่เรารณรงค์ อาทิ โครงการหมู่บ้านสีขาว โครงการบำบัดยาเสพติด แต่กระนั้นจำนวนผู้ติดยาเสพติดก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง และปัจจุบันนี้ราคายาเสพติดถือว่ามีราคาถูกมาก แต่เดิมราคาเม็ดละ 200-300 บาท ปัจจุบันราคาไม่กี่สิบบาท และยังมีการให้สินเชื่อเมื่อถูกจับยังสามารถยึดคืนมาได้อีก ตรงนี้เราเป็นห่วงมากจึงต้องปราบปรามให้จริงจัง แต่ในขณะเดียวกันเราก็ขึ้นบัญชีจำนวน 33 หมู่บ้านที่เป็นเขตมียาเสพติดมากเราก็ต้องเน้นหนักเฝ้าระวังไม่ให้ยาเสพติดรุกลามไปอีก เราจึงจัดอบรมโครงการนำร่องแห่งแรกในจังหวัดนครราชสีมา ‘ค่ายวิถีธรรม หนุนนำชีวิต’ และได้รับพระกรุณาธิคุณจาก ‘ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี’ องค์ประธานโครงการทูบีนัมเบอร์วันร่วมสนับสนุนครั้งนี้อีกด้วย เพื่อหวังให้โอกาสแก่ผุ้ติดยาเสพติดและเยาวชนที่หลงผิดกลับเป็นคนดีคืนสู่สังคม

ทางด้าน  พระอาจารย์เทวฤทธิ์ มมธิโร เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์บ้านตลุกยาง ให้สัมภาษณ์ว่า การที่จัดโครงการนำเยาวชนที่ติดยาเสพติดอบรมจริยธรรมตามโครงการ ‘ค่ายวิถีธรรม หนุนนำชีวิต’ เพื่อให้เขาเหล่านั้นเล็งเห็นว่าทางผุ้หักผุ้ใหญ่ยังเห็นความสำคัญและยังให้โอกาสและเมตตาเขาอยู่ ทั้งนี้ ทางหน่วยงานราชการยังให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ และทางสำนักสงฆ์เองก็ยินดีที่จะรับผู้ติดยาเสพติดและเยาวชนที่หลงผิดในการอบรมเพื่อหลุดพ้นจากสิ่งเสพติดและกลับคืนสู่สังคมอย่างมีความสุขต่อไป

‘นายวิเชียร จันทรโณทัย’  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการเปิดอบรมจริยธรรมตามโครงการ ‘ค่ายวิถีธรรม หนุนนำชีวิต’ ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม – 4 สิงหาคม 2561 ณ สำนักสงฆ์บ้านตลุกยาง ตำบลหนองแจ้งใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา โดยได้รับความร่วมมือจากสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดนครราชสีมาและอำเภอบัวใหญ่ ถือเป็นโครงการนำร่องแห่งแรกในจังหวัดนครราชสีมา และได้รับพระกรุณาธิคุณจาก ‘ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี’ องค์ประธานโครงการทูบีนัมเบอร์วันร่วมสนับสนุนครั้งนี้อีกด้วย

                วันที่ 31 กรกฎาคม 2561 เวลา 15.30 น. ที่ สำนักสงฆ์บ้านตลุกยาง ตำบลหนองแจ้งใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการนำเยาวชนที่ติดยาเสพติดอบรมจริยธรรมตามโครงการ ‘ค่ายวิถีธรรม หนุนนำชีวิต’ ณ สำนักสงฆ์บ้านตลุกยาง  อ.บัวใหญ่ ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม – 4 สิงหาคม 2561 โดยได้รับความร่วมมือจากสำนักงานคุมประพฤติอำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมาและอำเภอบัวใหญ่ และถือว่าเป็นโครงการนำร่องขัดเกลาเยาวชนให้ห่างไกลยาเสพติดแห่งแรกในจังหวัดนครราชสีมา โดยมีเยาวชนและผู้ถูกคุมประพฤติจำนวน 35 คน เข้าอบรมในโครงการนี้ หวังให้โอกาสกลับเป็นคนดีคืนสู่สังคม

นอกจากนี้ ทางผู้ว่าวิเชียร จันทรโณทัย ยังได้มอบเงินทุนสงเคราะห์ช่วยเหลือครอบครัวผู้ผ่านการบำบัดฟื้นฟูยาเสพติดที่ยากจนจำนวน 20,000 บาท  จำนวน 3 ทุน และทุนเพื่อประกอบอาชีพเลี้ยงสุกรอีก 3,000 บาทจำนวน 1 ทุน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ และเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2561

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า การแพร่ระบาดของยาเสพติดของเยาวชนยอมรับว่ามีมาก ซึ่งทางจังหวัดเราเองและทางตรวจทหารรวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ช่วยกันปราบปรามอย่างเต็มที่  ซึ่งก็มีหลายโครงการที่เรารณรงค์ อาทิ โครงการหมู่บ้านสีขาว โครงการบำบัดยาเสพติด แต่กระนั้นจำนวนผู้ติดยาเสพติดก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง และปัจจุบันนี้ราคายาเสพติดถือว่ามีราคาถูกมาก แต่เดิมราคาเม็ดละ 200-300 บาท ปัจจุบันราคาไม่กี่สิบบาท และยังมีการให้สินเชื่อเมื่อถูกจับยังสามารถยึดคืนมาได้อีก ตรงนี้เราเป็นห่วงมากจึงต้องปราบปรามให้จริงจัง แต่ในขณะเดียวกันเราก็ขึ้นบัญชีจำนวน 33 หมู่บ้านที่เป็นเขตมียาเสพติดมากเราก็ต้องเน้นหนักเฝ้าระวังไม่ให้ยาเสพติดรุกลามไปอีก เราจึงจัดอบรมโครงการนำร่องแห่งแรกในจังหวัดนครราชสีมา ‘ค่ายวิถีธรรม หนุนนำชีวิต’ และได้รับพระกรุณาธิคุณจาก ‘ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี’ องค์ประธานโครงการทูบีนัมเบอร์วันร่วมสนับสนุนครั้งนี้อีกด้วย เพื่อหวังให้โอกาสแก่ผุ้ติดยาเสพติดและเยาวชนที่หลงผิดกลับเป็นคนดีคืนสู่สังคม

ทางด้าน  พระอาจารย์เทวฤทธิ์ มมธิโร เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์บ้านตลุกยาง ให้สัมภาษณ์ว่า การที่จัดโครงการนำเยาวชนที่ติดยาเสพติดอบรมจริยธรรมตามโครงการ ‘ค่ายวิถีธรรม หนุนนำชีวิต’ เพื่อให้เขาเหล่านั้นเล็งเห็นว่าทางผุ้หักผุ้ใหญ่ยังเห็นความสำคัญและยังให้โอกาสและเมตตาเขาอยู่ ทั้งนี้ ทางหน่วยงานราชการยังให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ และทางสำนักสงฆ์เองก็ยินดีที่จะรับผู้ติดยาเสพติดและเยาวชนที่หลงผิดในการอบรมเพื่อหลุดพ้นจากสิ่งเสพติดและกลับคืนสู่สังคมอย่างมีความสุขต่อไป