สมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา วางพวงมาลาสักการะคุณย่าโม และทำบุญอุทิศส่วนกุศลแด่เพื่อนร่วมอาชีพที่ล่วงลับไปแล้ว

สมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา วางพวงมาลาสักการะคุณย่าโม และทำบุญอุทิศส่วนกุศลแด่เพื่อนร่วมอาชีพที่ล่วงลับไปแล้ว

วันที่  5  มีนาคม 2562  สมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา นำโดย นายฐิติรัตน์  พงษ์พุทธรักษ์ นายกสมาคมนักข่าวจังหวัดนครราชสีมา  นายไพฑูรย์ มนุญพงศ์พันธุ์  นายอิศราวุธ  พิพัฒพลกาย  และคณะกรรมการทุกท่าน ได้ร่วมกันวางพวงมาลาสักการะท้าวสุรนารี  ที่บริเวณ ลานอนุสาวรีท้าวสุรนารีเนื่องในวันนักข่าว ประจำปี 2562 และถวายภัตราหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ ที่วัดสุทธจินดาวรวิหาร จังหวัดนครราชสีมา เพื่ออุทิศส่วนบุญให้กับนักข่าวที่ล่วงลับไปแล้ว

ทั้งนี้วันนักข่าว ตรงกับวันที่ 5 มีนาคม   ของทุกปีถือกำเนิดมาจากวันที่นักข่าวรุ่นบุกเบิกหลายท่านได้ร่วมชุมนุมกันก่อตั้งสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย ขึ้นมาเมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2498    ก่อนหน้านั้นหนังสือพิมพ์ทั้งหลายต่างให้ความสำคัญกับ “วันนักข่าว” กันเป็นอย่างดี
ปัจจุบันข่าวสารข้อมูลกำลังกลายมาเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิต แต่ความจำเป็นดังกล่าวไม่ใช่เพียงเนื้อหาของข่าวเท่านั้น คนหนังสือพิมพ์ หรือนักข่าวก็มีความสำคัญ ในฐานะคนกลางที่ทำหน้าที่ส่งผ่านข่าวสารที่เป็นข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนไปยังผู้อ่านด้วยเช่นกัน จึงเปรียบเทียบได้กับกระจกที่สะท้อนสังคมในทุก ๆ ด้าน ไม่เฉพาะเจาะจงเพียงด้านเดียวในแวดวงหนังสือพิมพ์ มีผู้เรียกนักหนังสือพิมพ์หรือนักข่าวว่า “ฐานันดรที่ 4” ความหมายโดยนัยแล้วคือ ผู้ที่มีสถานะแตกต่างจากบุคคลธรรมดาทั่วไป หรือผู้ที่มีอภิสิทธิ์ในการขีดเขียนเรื่องราวต่าง ๆ ผ่านสื่อมวลชน

โดยในปี 2562 นี้ ทางสมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา ไม่ได้มีการจัดงานวันนักข่าวแต่อย่างใด  เนื่องจากเห็นว่า มีหน่วยงานทางสื่อมวลชน ได้มีการจัดงานกันอย่างหลากหลายรูปแบบอีกทั้งหากต้องมีการข้อรับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ใจดี ทางสมาคมได้เล็งเห็นว่า  ควรมีการจัดกิจกรรมในรูปแบบอื่น เพื่อเป็นการยังประโยชน์ให้แก่สังคมได้มากที่สุด  จึงได้ดำเนินการจัดการแข่งขันกีฬาจักรยานขึ้น  ภายใต้โครงการ TOUR OF KORAT 2019 ที่ได้ร่วมกันกับท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา  จังหวัดนครราชสีมา และสโมสรกีฬาจักรยาน  จังหวัดนครราชสีมา  ที่จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่  31  มีนาคม  2562 นี้

กลุ่มคนรุ่นใหม่โคราชแห่ต้อนรับ หัวหน้าพรรคและ ผู้สมัคร ส.ส เขตโคราช 14 เขต ไหว้ขอพรคุณย่าโม

‘ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ’ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ผู้ปลุกกระแสฟ้ารักพ่อฟีเว่อร์ ลงพื้นที่โคราชขอโอกาสขอคะแนนเสียงให้คนรุ่นใหม่หัวใจประชาธิปไตย เพื่อรับใช้ประชาชน ลั่นนโยบายพรรคถูกใจมหาชน ขณะที่สาวๆขอเซลฟี่ด้วยเพียบ

วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 09.00 น. ที่ ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ถ.ราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นคราชสีมา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมด้วย แกนนำพรรค พร้อมทั้งผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 14 เขตของจังหวัดนครราชสีมา ได้สักการะขอพรย่าโมเพื่อความเป็นสิริมงคล และจากนั้นได้เดินลงพื้นที่หาเสียงพบปะประชาชนในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักสาวๆแห่ขอเซลฟี่ด้วยเพียบ
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า วันนี้ได้เดินทางมาจังหวัดนครราชสีมา เพื่อได้พบปะประชาชนและมอบนโยบายพร้อมด้วยแนะนำสมาชิกพรรคแต่ละเขตพื้นที่ให้ประชาชนได้รู้จัก ซึ่งพรรคอนาคตใหม่ยึดหลักการทำงาน 3 ประการ คือ ประการที่ 1. เป็นพรรคการเมืองที่มุ่งทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ ประการที่ 2. เป็นพรรคการเมืองที่ไม่มีใครคนใดคนหนึ่งหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นเจ้าของ ประการที่ 3. เป็นพรรคการเมืองที่มุ่งทำงานการเมืองระยะยาว เราจะเป็นพรรคการเมืองที่มีชีวิตตลอดเวลา ไม่ใช่จะขยันหรือกระตือรือร้นทำงานเฉพาะในช่วงฤดูกาลเลือกตั้งเท่านั้น แต่เป็นการทำงานต่อเนื่องไม่มีวันหยุด

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า วันนี้ได้เดินทางมาจังหวัดนครราชสีมา เพื่อได้พบปะประชาชนและมอบนโยบายพร้อมด้วยแนะนำสมาชิกพรรคแต่ละเขตพื้นที่ให้ประชาชนได้รู้จัก ซึ่งพรรคอนาคตใหม่ยึดหลักการทำงาน 3 ประการ คือ ประการที่ 1. เป็นพรรคการเมืองที่มุ่งทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ ประการที่ 2. เป็นพรรคการเมืองที่ไม่มีใครคนใดคนหนึ่งหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นเจ้าของ ประการที่ 3. เป็นพรรคการเมืองที่มุ่งทำงานการเมืองระยะยาว เราจะเป็นพรรคการเมืองที่มีชีวิตตลอดเวลา ไม่ใช่จะขยันหรือกระตือรือร้นทำงานเฉพาะในช่วงฤดูกาลเลือกตั้งเท่านั้น แต่เป็นการทำงานต่อเนื่องไม่มีวันหยุด
ขณะที่ นายวรพงศ์ โสมัจฉา ผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เบอร์ 9 เขต 1 นครราชสีมา กล่าวว่า อยากจะขอโอกาสกับประชาชนทุกท่านให้โอกาสตนและคนรุ่นใหม่ได้มาทำงานเพื่อประชาชนได้ต่อยอดพัฒนาประเทศชาติให้เจริญภายใต้ประชาธิปไตยที่แท้จริง ซึ่งเราพร้อมที่จะแก้ปัญหาต่างๆในประเทศให้ดีขึ้นจากทีมงานคนรุ่นใหม่ นำสังคมไทยออกจากความขัดแย้ง

                  นายอนันต์ สินมานนท์ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เบอร์ เขต 9 นครราชสีมา กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนเองได้เห็นแนวคิดของพรรคอนาคตใหม่แล้วรู้สึกถูกใจเป็นการเมืองแบบใหม่ ไม่ใช่กลุ่มทุนที่ตั้งพรรคการเมืองเองเพื่อเอื้อประโยชน์ตนเองและพรรคพวก แต่พรรคอนาคตใหม่เรารวมแนวคิดและนโยบายที่ไม่ใช่จำกัดแค่คนชั้นสูงบางกลุ่มแต่คือนโยบายเพื่อประชาชนจริงๆ พรรคอนาคตใหม่เป็นพรรคที่สมาชิกของเราจะโหวตกันเองว่าใครจะได้อยู่เขตไหน ซึ่งทางพรรคเองก็เห็นว่าโปรไฟล์ของผมนั้นทำงานเพื่อสังคมมาโดยตลอด และผมเองมั่นใจในพรรคอนาคตใหม่คือพรรคที่ส่งเสริมคนรุ่นใหม่ที่ไม่เคยเป็นนักการเมืองมาก่อน ไม่มีประวัติด่างพร้อย และทุกคนมีความมุ่งมั่นและตั้งใจจริงที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาของประเทศได้ดีที่สุด ขอให้ทุกคนมั่นใจเชื่อใจก้าวไปด้วยกันแบบใหม่กับพรรคอนาคตใหม่เพื่อไทยทุกคน
ทางด้าน นายพัลลภ เสนาดี ผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่เบอร์ 3 เขต 2 นครราชสีมา กล่าวว่า นอกจากนี้ถ้าหากทางเราได้รับเลือกเป็นคณะรัฐบาล ก็จะเร่งทำนโยบายต่างๆให้เป็นรูปธรรม อาทิ เพิ่มเงินชีพคนชราเป็น 3 เท่า คือ 1,800 บาท รัฐสวัสดิการถ้วนหน้าครบวงจรทั้งหมดนี้ใช้งบประมาณ 650,000 ล้านบาท โดยเงินจะนำมาจาก 1.จากของเดิมที่มีอยู่ 2. ลดงบกลาโหม 30% 3. กองทุนสวัสดิการแห่งรัฐ 4. ลดสิทธิประโยชน์ BOI 5. ลดสิทธิการลดหย่อนภาษีบางส่วน 6. ลดงบประจำ และงบกลาง 7. ขึ้นภาษีที่ดิน 8. เอาหวยขึ้นมาไว้บนดิน เป็นต้น    นายภูดิส ทามนตรี ผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เขต 11 นครราชสีมา กล่าวว่า พรรคอนาคตใหม่ของเรา เราต้องการนำเสนอความทันสมัยคิดใหม่ปฏิรูปใหม่ให้เป็นไปตามสากลนิยมและนานาอารยะประเทศที่พัฒนาแล้วเขาทำกันเป็นประชาธิปไตย ผมคิดว่าสังคมไทยและคนโคราชก็ที่จะต้องเดินหน้าไปในทิศทางที่เป็นประชาธิปไตยและมีความคิดที่เสรีไม่มีอะไรมาปิดกั้นหรืออยู่ภายใต้อาณัฐของกลุ่มชนชั้นสูงที่แบ่งพรรคแบ่งฝ่าย เชื่อเหลือเกินว่าพี่น้องชาวไทยทุกคนอยากจะเห็นการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยไปสู่เมืองเศรษฐกิจและศูนย์กลางสินค้าของโลกในอนาคต พรรคอนาคตใหม่เราทำได้แน่นอน


สำหรับจังหวัดนครราชสีมานั้น เป็นพื้นที่ของเมืองอุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ดังนั้นพรรคอนาคตใหม่จึงอยากจะเข้ามาต่อยอดเพื่อให้อุตสาหกรรมต่างๆรุ่งเรือง และนำเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ก้าวหน้า มาตอบโจทย์การสร้างงาน สร้างเศรษฐกิจ ที่มีความเข้มแข็ง และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงการลดการนำเข้าของพลังงาน  ทั้งนี้ทางพรรคอนาคตใหม่  ได้ขอโอกาสให้ชาวโคราชได้เลือก  พรรคทางเลือกใหม่ “พรรคอนาคตใหม่” ให้เข้ามาร่วมกันบริหารประเทศ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ (24 มีนาคม 2562)  สำหรับประชาชนท่านใดที่ต้องการสมัครเป็นสมาชิกพรรค  สามารถติดต่อได้ที่  สำนักงานพรรคอนาคตใหม่  ที่ตั้ง อาคารข้างโรงแรมสีมาธานี  จังหวัดนครราชสีมา

สพร.โคราชเปิดฝึกอบรมช่างติดตั้งโครงสร้างมวลเบา ผนัง หลังคา และเมทัลชีท

สพร.โคราชเปิดฝึกอบรมช่างติดตั้งโครงสร้างมวลเบา ผนัง หลังคา และเมทัลชีท

สพร 5 นครราชสีมาเปิดโครงการฝึกอบรมฝีมือแรงงานบูรณาร่วมภาครัฐและเอกชน หลักสูตรช่างติดตั้งเหล็กโครงสร้างมวลเบา ผนัง หลังคา และเมทัลชีท ภายใต้ข้อตกลงว่าด้วยการพัฒนาฝีมือแรงงาน ระหว่างกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กับ บริษัท เอ็นเอสบลูสโคปสตีล (ประเทศไทย) จำกัด


ที่ผ่านมา นายสุเมธ โศจิพลกุล ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา เป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมฝีมือแรงงานบูรณาร่วมภาครัฐและเอกชน หลักสูตรช่างติดตั้งเหล็กโครงสร้างมวลเบา ผนัง หลังคา และเมทัลชีท ภายใต้ข้อตกลงว่าด้วยการพัฒนาฝีมือแรงงาน ระหว่างกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กับ บริษัท เอ็นเอสบลูสโคปสตีล (ประเทศไทย) จำกัด ระหว่างวันที่ 4 – 7 กุมภาพันธ์ 2562 มีจำนวนผู้เข้ารับงานฝึก 36 คน ณ โรงฝึกงานช่างก่อสร้างและอุตสาหกรรมฅิลป์ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา โดยได้รับการสนับสนุนวิทยากร วัสดุ อุปกรณ์ ในการฝึกจากศูนย์ฝึกอบรมบลูสโคป โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาช่างติดตั้งโครงสร้างมวลเบา ผนัง หลังคา และเมทัลชีท ให้เกิดความชำนาญในการติดตั้ง และสามารถคิดคำนวณ และพัฒนาตนเองให้เป็นผู้ประกอบการได้ในอนาคต
ในปี 2562 สพร.5 นครราชสีมา มีเป้าหมายการฝึกทักษะด้านช่างติดตั้งโครงสร้างมวลเบา ผนัง หลังคา และเมทัลชีทให้กับแรงงานในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาเพิ่มอีก จำนวน 20 คน และในสาขาช่างมุงหลังคากระเบื้องคอนกรีต จำนวน 12 ชั่วโมง หรือ 2 วัน จำนวน 20 คน มีกำหนดการเปิดฝึกระหว่างวันที่ 29-30 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นต้น ผู้ที่สนใจสามารถสมัครได้ที่ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา เบอร์โทรศัพท์ 044- 416947 หรือสอบถามข้อมูลได้ที่ นายชินโชติ บรรจงปรุ นักวิชาการพัฒนาฝีมือแรงงานชำนาญการ เบอร์โทรศัพท์ 081-977-8564

ลูกจ้างสุดแซบ ขโมยเสื้อกางเกงยีนต์ มูลค่าครึ่งล้าน เจ้าของร้านส่งรายใหญ่โคราช จนมุมเพราะขายถูกกว่าร้านอื่น จนมาเข้าหูผู้เสียหาย

ลูกจ้างสุดแซบ ขโมยเสื้อกางเกงยีนต์ มูลค่าครึ่งล้าน เจ้าของร้านส่งรายใหญ่โคราช จนมุมเพราะขายถูกกว่าร้านอื่น จนมาเข้าหูผู้เสียหาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกับการการสืบสวนสอบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมผู้เสียหายเหตุลักทรัพย์ นางรุ่งทิพย์ เตชะสีหบุตร อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้านเจ้ใหม่บูติค ตั้งอยู่ที่ บ้านเลขที่ 12/5-6 ถนนจันทร์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา แจ้งว่าพบเสื้อกางเกงยีนต์ ที่เป็นของทางร้านที่ได้ถูกขโมยไปโดย คนร้ายไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด เข้ามาลักเอาทรัพย์สินดังกล่าวไปและได้แจ้งความ ร้องทุกข์เอาไว้ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา เมื่อประมาณเดือนธันวาคม 2561


ต่อมานางรุ่งทิพย์ ฯทราบว่าได้มีคนนำเสื้อกางเกง ซึ่งเชื่อว่าเป็นของร้านตนเองที่ได้ถูกลักขโมยเอาไป มาวางขายที่ตลาดนัดจิระ บริเวณหน้าสถานีรถไฟจิระ เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมผู้เสียหายจึงได้แสดงตัวขอเข้าตรวจสอบแผงวางขายเสื้อกางเกงยีนต์ พบนายนิพนธ์ นามสว่าง ให้การว่าเป็นลูกจ้าง รับจ้างขนของมาขายจาก นางยุพาพร พงษ์พฤฒิพันธ์ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 140 ถ.จิระ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ผู้เสียหายยืนยันว่าเป็นสินค้าที่สูญหายจากร้านตนเองจริง จากนั้นได้ให้นายนิพนธ์ ฯ พาเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้เสียหาย ไปหานางยุพาพร ฯที่บ้านพัก พบนางยุพาพร ฯ จึงได้สอบถามที่มาของเสื้อกางเกงที่เอาไปวางขายดังกล่าว แต่ขณะสอบถามพบว่านางยุพาพร ฯ ให้การมีพิรุธ เกี่ยวกับที่มาของเสื้อกางเกงดังกล่าว ให้การวกไปวนมา จนกระทั่งต่อมาให้การยอมรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้เสียหายว่า เมื่อประมาณเดือนธันวาคม 2561 ได้ร่วมกับนางปุ้ย ฯ ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ซึ่งเคยเป็นลูกจ้างที่ร้านเจ๊ใหม่บูติค ด้วยกันมาก่อน เข้าไปลักขโมยเอาเสื้อกางเกง โดยเข้าไปลักเอาในเวลากลางคืน จำนวน 2 วัน 2 ครั้ง และนำทรัพย์สินที่ได้มาแบ่งกันเอาไปขาย
ด้าน นางรุ่งทิพย์ เตชะสีหบุตร เจ้าของร้าน เล่าน้ำตาคอว่า หลังจากทราบว่าลูกจ้างตนเป็นคนลักทรัพย์ไปนั้นเสียใจอย่างมากเนื่องจากไว้ใจ เพราะสินค้าในร้านมีจำนวนมาก กล้องวงจรปิด 16 ตัวในร้านไม่พบการก่อเหตุสักครั้ง อีกทั้งตนไม่คิดว่าจะเกิดเหตุแค่เพียง 2 ครั้งเพราะว่าสินค้าศูนย์หายไปจำนวนมาก มูลค่ากว่าครึ่งล้าน และพบว่ามีการทถอยลักทรัพย์ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธุ์ 2561 เป็นต้นมาและมาลาออกในเดือนสิงหาคม หลังจากออกไปแล้วก็ยังวนเวียนเข้ามาก่อเหตุซ้ำต่อในเดือนธันวาคมอีก ซึ่งเชื่อได้ว่าคนร้านจะเข้ามาทางด้านหลังร้านซึ่งมีกำแพงติดกับวัดโพธิ์ และใช้เส้นทางดังกล่าวในการขนของหลบหนี จึงคิดว่าคนร้ายน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 3 คนจึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมมาดำเนินคดีทั้งหมด

 

>ชมภาพ<<

เฉลิมเกียรติโคราช!!โชว์ผลงานกวาดล้างยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 3 สกัดจับลอบขนกัญชา 500 กก. หลบด่านเข้ารีสอร์ทไม่รอด มูลค่ากว่า 10 ล้าน

เฉลิมเกียรติ โชว์ผลงานกวาดล้างยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 3 สกัดจับลอบขนกัญชา 500 กก. หลบด่านเข้ารีสอร์ทไม่รอด มูลค่ากว่า 10 ล้าน


เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 ก.พ. ที่ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ถนนสรรพสิทธิ์ อ.เมือง นครราชสีมา พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.(ปป.) พร้อม พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.3 ,พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผบก.ฯ และ พ.ต.อ.ปวริศ บุญ สุทธิ รอง ผบก.ฯ ,พ.ต.อ.ปราโมทย์ สิมหลวง ผกก.สภ.หินดาด จว.นครราชสีมา และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ ร่วมแถลงผลจับกุมนายดี หรือตี การุญ อายุ 42 ปี อยู่ บ้านเลขที่ 14 หมู่ที่ 5 ต.โพนบก อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม และนายไพทูรย์ หรือทูน ฝอยทอง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 106 หมู่ที่ 10 ต.บ้านผึ้ง อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม พร้อมของกลางกัญชาแห้งอัดแท่งน้ำหนักประมาณ 500 กิโลกรัม และ รถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไททัน สีดำหมายเลขทะเบียน ฒฮ 5005 กรุงเทพมหานคร เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลให้หยุดยั้งและปราบปรามการแพร่ระบาดของยาเสพติดโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เร่งรัดสืบสวนจับกุมผู้ค้ายkเสพติดในเขตพื้นที่รับผิดชอบในช่วง ระดมกวาดล้างอาชญากรรมและการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดห้วงวันที่ 1 -4 กุมภาพันธ์  2562

 

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ฯ รอง ผบ.ตร. ( ปป.) เผยพฤติการณ์ของคดีว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ต.อ.ปราโมทย์ สิมหลวง ผกก.สภ.หินดาด ได้รับ คำสั่งจากผู้บังคับบัญชา ให้ตั้งจุดตรวจ จุดสกัดในพื้นที่รับผิดชอบ หลังสืบทราบว่า จะมีขบวนการลักลอบขนกัญชามา จาก จ.นครพนม ใช้เส้นทางผ่านพื้นที่ของ จ.นครราชสีมา จึงได้ร่วมกันตั้งจุดตรวจบนถนนสาย 2256 ถนนสายชัยบาดาล-ด่าน ขุนทด บริเวณหน้าวัดเขาบารมี หมู่ที่ 10 ต.ห้วยบง อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งจากตำรวจที่ทำหน้าที่ตรวจการส่วนหน้าสังเกตรถที่เลี้ยวเข้าจอดก่อนถึงจุดตรวจ พบว่ามี ชายไทย 2 คน ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไททัน สีดำหมาย เข้าไป จอดและเข้าพักที่ห้องหมายเลข 10 ภายใน รีสอร์ทชมวิว หมู่ที่ 2 ต.ห้วยบง อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ท่าทางมีพิรุธน่าสงสัย จนท.แสดงตัวเข้าตรวจสอบ และตรวจค้นรถคันดังกล่าว พบกัญชาแห้งอัดแท่งจำนวน 500 แท่ง น้ำหนัก 500 กิโลกรัม บรรจุอยู่ใน กระสอบปุ๋ย ห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกสีดำอีกชั้นหนึ่ง จำนวน 12 กระสอบ ซุกซ่อนอยู่ที่กระบะด้านหลังรถยนต์


จากนั้นได้ประสาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.นครราชสีมา ดำเนินการขยายผลจับกุมเครือข่ายขบวนการลักลอบขนกัญชารายนี้ สามารถจับกุมนายประกรชัย หรือโก้ ไกรรัตน์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 167 หมู่ที่ 5 ต.ดงบัง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ทำหน้าที่เป็นคนขับรถนำหน้า และจับกุมนายฐานทัพ หรือขอน วะกะกัณฑ์ อายุ 42ปี อยู่บ้านเลขที่ 69 หมู่ที่ 2 ต.นามะเขือ อ.ปลา ปาก จ.นครพนม ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานทางโทรศัพท์กับรถขนกัญชา พร้อมด้วยรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้สีเทา หมายเลข ทะเบียน กร 2801 ระยอง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.หินดาด เพื่อดำเนินการสืบสวนและขยายผลทำลายายเครือข่าย ขบวนการค้ายาเสพติดให้สิ้นซากต่อไป จากการสอบถามเบื้องต้นผู้ต้องหาอ้าง รับมาจากนายทุนชาวลาวเดินทางมาจาก จ.นครพนม นำไปส่งให้ลูกค้าในเขตกรุงเทพฯ เพื่อรอขนลำเลียงส่งออกนอกประเทศ อย่างไรก็ตามหากกัญชาอัดแท่งจำนวนนี้ถูกส่งออกนอกประเทศจะมีมูลค่ามากกว่า 10 ล้านบาท

นอกจากยังมีผลการจับกุมผู้ค้ายาบ้า ของตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี ของกลางยาบ้า จำนวน639,353 เม็ด และตำรวจภูธรจังหวัด บุรีรัมย์ ยาบ้า 101,990 เม็ด

>ชมคลิปและอ่านข่าวเพิ่มเติม<<

ชาวอำเภอครบุรีร่วมทำบุญทักษิณานุปะทาน หลวงพ่อคูณปริสุทโธ

 ชาวอำเภอครบุรีร่วมทำบุญทักษิณานุปะทาน หลวงพ่อคูณปริสุทโธ ผู้อุ้มบาตรรับบริจาคเงินสร้างพระอุโบสถให้วัดหนองโคพรหมนิมิต

           ที่วัดหนองโคพรหมนิมิต ต.ตะแบกบาน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา พันโทนายแพทย์ภาคย์  โลหารชุน ผู้บังคับกองพันเสนารักษ์ที่ 3 เป็นประธานฝ่ายฆราวาสนำชาวบ้านอำเภอครบุรี ประกอบพิธีทำบุญทักษิณานุปะทาน  โดยมีท่านเจ้าคุณพระสุขุม ธรรมวาที เจ้าคณะอำเภอครบุรี เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ เพื่อน้อมถวายเป็นกุศลพระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ โดยมีศิษยานุศิษย์ของหลวงพ่อคูน มาร่วมในพิธีจำนวนมาก

ทั้งนี้เนื่องจากทางหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ที่สร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติอย่างมากมาย  เช่นเดียวกันกับวัดหนองโคพรหมนิมิต ก็เป็นอีกหนึ่งวัดที่หลวงพ่อคูณ ได้มาอุ้มบาตรรับบริจาคเงินในการก่อสร้างพระอุโบสถของวัด โดยได้เงินในการเริ่มต้นก่อสร้างพระอุโบสถ จำนวน 100,000 บาท และเป็นผู้วางศิลาฤกษ์ก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ.2539 เพื่อให้ตำบลตะแบกบานมีพระอุโบสถเพื่อใช้ในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาสืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน

>ชมภาพบรรยากาศ<<

โคราชจัดงาน Field Day เตรียมพร้อมเกษตรกรเริ่มต้นฤดูกาลเพาะปลูก หวังพัฒนาศักยภาพสินค้าทางการเกษตรให้ได้คุณภาพมากขึ้น

โคราชจัดงาน Field Day เตรียมพร้อมเกษตรกรเริ่มต้นฤดูกาลเพาะปลูก หวังพัฒนาศักยภาพสินค้าทางการเกษตรให้ได้คุณภาพมากขึ้น

ที่ทำการชาวไร่ บ้านหนองรัง หมู่ที่ 2 ต.แชะ  อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา นายวิจิตร กิจวิรัตน์ นายอำเภอครบุรี   เป็นประธานเปิดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยี (Field Day) และบริการเกษตรกรเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ ปี 2562 ซึ่งทางสำนักงานเกษตรจังหวัดนครราชสีมา พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันจัดขึ้น เพื่อสานต่อนโยบายรัฐบาลในการเตรียมพร้อมเกษตรกรเข้าสู่ฤดูกาลผลิตสินค้าเกษตร ปี 2562/2563 กระตุ้นให้เกษตรกรเริ่มต้นการผลิตโดยใช้เทคโนโลยี และภูมิปัญญาที่เหมาะสมต่อพื้นที่ในการวางแผนการผลิต การเข้าถึงปัจจัยการผลิตที่มีคุณภาพ การลดความเสี่ยงของผลผลิต การเชื่อมโยงเครือข่าย และการบริหารจัดการการผลิตให้มีประสิทธิภาพ

โดยภายในงานวันนี้  มีเป้าหมายเพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีการลดต้นทุนการผลิต การเพิ่มผลผลิต เพิ่มมูลค่าผลผลิต และการตลาด มีการจัดสถานีถ่ายทอดความรู้เรื่องวิธีการเตรียมดินและการปรับปรุงบำรุงดินเพื่อการเพะปลูกที่ถูกต้อง  การคัดสรรพันธุ์พืชที่มีคุณภาพ  การทำการเกษตรพอเพียง การเกษตรแบบผสมผสาน การใช้เครื่องจักรกลสมัยใหม่เพื่อพัฒนาผลผลิต การบริหารจัดการน้ำ และ การกำจัดแมลงศัตรูพืชด้วยวิธีการทางธรรมชาติ  เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอองค์ความรู้ และบริการการเกษตรอื่นๆ จากหน่ายงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การสาธิตนวัตกรรมและเครื่องจักรเพื่อการเกษตรสมัยใหม่  การประชาสัมพันธ์องค์ความรู้ในการจัดการและแก้ไขปัญหาด้านการเกษตรจากหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง  การจำหน่ายผลผลิต และผลิตภัณฑ์เกษตร จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชน และกลุ่มอาชีพต่างๆ ด้วย

>ชมภาพบรรยากาศ<<

 

พัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา จัดอบรมโครงการสร้างเสริมวัฒนธรรมองค์กร ฯ ต่อต้านทุจริต

     พัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา จัดอบรมโครงการสร้างเสริมวัฒนธรรมองค์กร ฯ ต่อต้านทุจริต

นายสุเมธ โศจิพลกุล ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา เป็นประธานเปิดฝึกอบรมโครงการเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรเพื่อสร้างทัศนคติและจิตสำนึกด้านการป้องกันและต่อต้านการทุจริตประพฤติมิชอบ

โดยได้รับเกียรติจาก นายมงคล สาริสุต ผู้อำนวยการสำนักงาน ปปช.ประจำจังหวัดนครราชสีมา เป็นวิทยากรบรรยายหัวข้อ กฎหมายป้องกันและปราบปรามทุจริต ผลประโยชน์ทับซ้อน การขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม โดยมีวัตถุประสงค์สร้างจิตสำนึกให้บริการประชาชนอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตมีคุณธรรมและจริยธรรม กล้ายืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้องไม่แสวงหาผลประโยชน์ในการปฏิบัติงาน ให้แก่เจ้าหน้าที่สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา จำนวน 40 คน

แปลกแต่จริง คนตายนานเป็นปี เจอค่าน้ำเดือนเดียว เกือบหมื่น วอนประปาเข้าตรวจสอบ

           แปลกแต่จริง คนตายนานเป็นปี เจอค่าน้ำเดือนเดียว เกือบหมื่น วอนประปาเข้าตรวจสอบ

   ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครราชสีมา   ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า ทางสำนักการประปาส่วนภูมิภาค สาขานครราชสีมา ตำบลจอหอ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ได้ส่งจดหมายแจ้งหนี้เรียกเก็บเงินนายประสิทธิ์ แพนเกาะ อายุ 56 ปี เจ้าของบ้าน ที่เสียชีวิตแล้วเมื่อวันที่ 1ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา โดยเรียกเก็บเงินเป็นจำนวนเกือบหมื่นบาท สร้างความตกใจให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก จึงเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าว พบนางทิพย์สุคนธ์ หรือน้อย แพนเกาะ อายุ 62 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวของผู้ตาย อาศัยอยู่ภายในหมู่บ้านฉัตรมงคล ตำบลหมื่นไวย ได้พาเดินดูรอบๆบ้านหลังที่มีปัญหาซึ่งถูกปิดล็อกด้วยกุญแจ ส่วนบริเวณรอบบ้านนั้นมีเพียงแต่ต้นไม้ปกคลุมทั่วบริเวณดังกล่าว

            นางทิพย์สุคนธ์ หรือน้อย พี่สาวผู้ตาย เล่าว่า บ้านหลังที่มีปัญหา เป็นบ้านเลขที่ 241 หมู่ 3 ถนนมิตรภาพ ตำบลหมื่นไวย อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นบ้านน้องชายได้อาศัยอยู่ คนเดียวไม่มีครอบครัว และได้เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจล้มเหลว เมื่อวันที่ 1ธันวาคม 60 หลังจากนั้นก็ไม่มีใครได้ไปอยู่แทน แต่จะมีตนเองเข้ามาเปิดน้ำทำความสะอาดบ้านและรถน้ำต้นไม้ หลังจากนั้นก็ปิดมิเตอร์น้ำ พอในแต่ละเดือนจะมียอดแจ้งหนี้เดือนละประมาณ 60 บาท เกือบทุกเดือน พอมาถึงเดือนพฤศจิกายน 61 ได้มีบิลชำระค่าน้ำมาปกติเหมือนทุกครั้ง แต่งวดนี้ไม่มีใบแจ้งยอดตนคิดว่าคงไม่ต้องจ่ายเพราะยอดใช้น้ำไม่ถึง หลังจากนั้นไม่นานก็มี จดหมายแจ้งหนี้เรียกเก็บเงินจำนวนการใช้น้ำ 336 หน่วย รวมเป็นเงิน 7,607.70 บาท พอเห็นแล้วถึงกับตกใจทำไรไม่ถูก ต่อมาในเดือนธันวาคม 61 ก็มีบิลแจ้งหนี้ จำนวน 878.68 บาท และในเดือนมกราคม 62 มีบิลแจ้งหนี้ จำนวน 192 บาท ตนจึงคิดว่าน่าจะเกิดความผิดพลาดอะไรเกิดขึ้นแน่นอน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้มีการแจ้งว่าน่าจะมีน้ำรั่ว แต่ตนมองว่าถ้ามีน้ำรั่ว ยอดการใช้น้ำทำไม่มันถึงห่างกันขนาดนี้ ซึ่งด้วยความตกใจตนจึงได้ชำระค่าน้ำจำนวน 7,607.70 บาท ไปก่อน ซึ่งกลัวว่าเจ้าหน้าที่จะมา ยกมิเตอร์ไปเวลาให้มาติดตั้งมันจะยุ่งยากกว่าเดิม จึงอยากได้เงินจำนวนดังกล่าวคืนมาใช้จ่ายภายในครอบครัว

            อย่างไรก็ตาม ฝากถึงเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้เข้ามาตรวจสอบความผิดปกติตรงนี้ ว่าเจ้าหน้าที่จดเลขมิเตอร์ผิด หรือมีการผิดพลาดตรงจุดไหน เพราะว่าเงินจำนวนดังกล่าวค่อนข้างสูง อีกทั้งบ้านหลังดังกล่าวก็ไม่มีคนอาศัยอยู่นานแล้ว

>ชมคลิปและเสียงสัมภาษณ์<<

จิตอาสาฯนำผ้าห่มกันหนาวมอบอาสาสมัครป้องกันไฟป่า หลังอากาศเย็นลงต่อเนื่อง

         

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีควบคุมไฟป่าบ้านหนองโบสถ์ หมู่ที่ 16 ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา นายนพชัย กลิ่นสูงเนิน หัวหน้าหน่วยส่งเสริมการควบคุมไฟป่านครราชสีมา รับมอบผ้าห่มกันหนาวจำนวน 100 ผืน จากประชาชนจิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจอำเภอครบุรี ที่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ รวมถึงกองร้อยรักษาความสงบเรียบร้อยเคลื่อนที่เร็วกองทัพภาคที่ 2 ก่อนที่จะนำไปแจกจ่ายให้กับกำลังอาสาสมัครเครือข่ายควบคุมไฟป่าในพื้นที่อำเภอครบุรี เพื่อที่จะได้นำไปใช้ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ในการเฝ้าระวังและควบคุมไฟป่า เนื่องจากในช่วงนี้เป็นช่วงที่สภาพอากาศหนาวเย็น และพื้นที่เสี่ยงการเกิดไฟป่าในพื้นที่อำเภอครบุรีส่วนใหญ่ จะอยู่บนภูเขาสูงชัน ห่างไกลจากชุมชนเมือง ผ้าห่มกันหนาวจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทางเครือข่ายรวมถึงเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบจำเป็นต้องใช้และยังขาดแคลนอยู่

          สำหรับสถานการณ์ไฟป่าในพื้นจังหวัดนครราชสีมา เริ่มเกิดปัญหาขึ้นแล้วในบางพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นพื้นที่ที่เคยเกิดขึ้นเป็นประจำ อาทิในพื้นที่ป่าหนองเต็ง ป่าจักราช อ.เฉลิมพระเกียรติ และพื้นที่อำเภอครบุรี ซึ่งขณะนี้ทางหน่วยส่งเสริมการควบคุมไฟป่าก็ได้มีการสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการควบคุมไฟป่าเพิ่มเติมขึ้น โดยใช้งบประมาณจากทางกรมป่าไม้มาดำเนินการเพื่อให้เป็นส่วนร่วมในการจัดการปัญหา  สำหรับในปีนี้มีการเพิ่มเครือข่ายความร่วมมือในพื้นที่อำเภอครบุรีเพิ่มเติมจาก 2 เครือข่าย เป็น 6 เครือข่ายแล้ว

           โดยสาเหตุของการเกิดไฟป่าส่วนใหญ่ เกิดจากการจุดไฟเผาป่าเพื่อล่าสัตว์ และหาของป่า ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ทรัพยากรธรรมชาติของไทยถูกทำลายอย่างมาก รวมถึงเป็นสาเหตุสำคัญในเกิดปัญหาหมอกควันสร้างมลพิษ

>ชมคลิป<<