ชาวบ้าน อ.สีคิ้ว จับหนูป่ามาเลี้ยงขยายพันธุ์ เป็นอาชีพเสริม

ชาวบ้าน อ.สีคิ้ว จับหนูป่ามาเลี้ยงขยายพันธุ์ เป็นอาชีพเสริม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครราชสีมา พบชาวบ้านจับหนูป่ามาเลี้ยงขยายพันธุ์เป็นอาชีพเสริม ลดต้อนทุนการผลิต ถือเป็นอีกอาชีพเสริมที่น่าสนใจ โดยนายสาคร อินทนัย อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/85 บ้านทับหก หมู่ 18 ต.หนองน้ำใส อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ซึ่งปกติมีอาชีพตัดหินปูพื้นขายอยู่แล้วได้อาศัยชั่วเวลาที่พอเหลือ ริเริ่มทำฟาร์มเลี้ยงหนูขาย โดยใช้วิธีหาหนูป่ามาเพาะเลี้ยงผสมพันธุ์เองเพื่อขยายพันธุ์ลดต้นทุนการผลิต

นายสาคร บอกว่า ตนมีอาชีพตัดหินปูพื้นส่งขาย แต่ด้วยที่บ้าน มีที่ว่าง จึงศึกษาหาอาชีพเสริมทางเนต จึงเห็นว่าการทำฟาร์มเลี้ยงหนู เป็นอีกอาชีพที่น่าสนใจ จึงทำการศึกษาวิธีการเลี้ยงจากยูทูบ ทั้งการผสมพันธุ์การเลี้ยงดู ซึ่งพบว่า เราสามารถนำหนูป่ามาเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์ได้ จึงนำกรงไปดักหนูที่มีอยู่ตามธรรมชาติ มาเลี้ยงไว้เป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ ซึ่งปัจจุบันมีพ่อพันธ์แม่พันธ์อยู่สองชนิด คือ หนูแผง กับหนูพุก ซึ่งเป็นหนูป่าขนาดใหญ่ที่ได้รับความนิยมในท้องตลาดเลี้ยงไว้ขยายพันธุ์ แต่การเลี้ยงหนูป่าต้องใช้เวลาสร้างความเคยชินประมาณ 2-3 เดือน เพื่อให้หนูปรับสภาพ ซึ่งไม่ต้องปิดมิดชิดมากนัก แต่ต้องเปิดดูทุกวันให้หนูเห็นหน้าจะได้คุ้นชิน จากนั้นก็จะพร้อมผสมพันธุ์ โดยนำตัวผู้หนึ่งตัว สามารถผสมพันธุ์ตัวเมียได้ 2-3 ตัว เมื่อปล่อยให้ผสมพันธุ์จนตัวเมียตั้งท้องแล้วต้องแยกออกไป จากกลุ่มเพื่อความปลอดภัย หากคลอดออกมาแล้วจะได้ไม่ถูกแม่หนูตัวอื่นทำร้ายเอา ส่วนตัวที่ท้องจะสังเกตได้ง่าย ตัวที่ตั้งท้องจะดุมากไม่ให้ตัวอื่นเข้าใกล้ หลังจากที่ตั้งท้องถึงคลอดใช้เวลาประมาณ สองเดือนครึ่ง คลอดออกมา 7-10 ตัว หลังจากที่คลอดแล้วปล่อยให้แม่เลี้ยงลูกไปประมาณ เดือนเศษ ก็สามารถแยกแม่ไปผสมพันธุ์อีกได้ ดังนั้นแม่หนึ่งตัวสามารถให้ลูกได้ 3-4 รอบต่อปี

ขณะที่ราคาขายตามท้องตลาด พ่อพันธุ์แม่พันธุ์ขายคู่ล่ะ 800 บาท ขณะที่หนูเนื้อขายกิโลกรัมละ 150 บาท ซึ่งช่วงนี้ทั้งพ่อพันธุ์ หรือหนูเนื้อแทบไม่พอขายเนื่องจากเป็นที่ต้องการเป็นจำนวนมาก

Cr. ภาพ/ข่าว  ประสิทธิ์  วนะชกิจ

 

ชาวบ้านกระชอน อ.พิมาย โคราช ร้องสื่อ!!ถนนพัง ไร้หน่วยงานดูแล

             

‘ชาวบ้านกระชอน’อำเภอพิมาย  จังหวัดนครราชสีมา  ร้องสื่อ ถนนเส้นหลักชำรุด ระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร ไร้หน่วยงานดูแล

                ชาวบ้านกระชอน ตำบลดงใหญ่ อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ร้องสื่อ หวังช่วยเป็นกระบอกเสียงถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยมาพัฒนาถนนเส้นหลักทางเข้าหมู่ บ้านความยาว 5.5 กิโลเมตร โดยมีช่วงหนึ่งระยะทาง 1.1 กิโลเมตร ถนนชำรุดหลายปี เป็นหลุมบ่อและเป็นดินโคลน รถยนต์ รถจักรยานยนต์ สัญจรไปมายากลำบาก โดยเฉพาะหน้าฝนสัญจรไม่ได้ ต้องใช้ทางอ้อมเกือบ 10 กิโลเมตร ทำให้เสียเวลา เป็นเหตุ เด็กไปโรงเรียนสาย ครูไปสอนหนังสือไม่ทัน หรือเกิดเหตุเจ็บป่วยก็ไปโรงพยาบาลยากลำบาก ร้องเรียนไปหลายครั้งเรื่องก็เงียบ หน่วยงานเกี่ยวข้องแก้ไขให้ด้วย

                นายหนุ่ม ชาวบ้านกะชอน กล่าวว่า ถนนเส้นนี้พังมานานหลายปีแล้ว ไม่มีหน่วยงานมาซ่อมแซมเสียที ก็ต้องจำใจใช้เส้นทางนี้หากจำเป็นจริงๆ ระยะทางก็ประมาณ 1 กิโลเมตร โดยเฉพาะรถยนต์หากไม่ชำนาญทางหลงมารถก็อาจติดหล่มได้ รถมอเตอร์ไซค์ก็มักจะประสบเหตุล้มบ่อยเช่นกัน เพราะสภาพถนนเป็นดินโคลน เป็นหลุมเป็นบ่อ เสียหายมาก ก็อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งมาซ่อมแซมด้วยชาวบ้านจะได้สัญจรไปมาสะดวกสักที เพราะเส้นทางนี้เป็นเส้นทางเชื่อมต่อหลายตำบลและอีก 2 อำเภอคือ อำเภอโนนแดง และ อำเภอประทาย

ทางด้าน นางสาวณัฐวรรณ เพียรหมอ ชาวบ้านกระชอน กล่าวอีกว่า เส้นทางนี้ตนเองต้องจำเป็นใช้สัญจรทุกวันเนื่องจากเป็นเส้นทางที่ต้องไปคอกวัวที่พ่อเลี้ยงเอาไว้ การสัญจรไปมาก็ลำบาก รวมถึงบรรดาคณะครูโรงเรียนราษฎร์สโมสรก็เดินทางมาสอนหนังสือลำบาก ต้องใช้เส้นทางเลี่ยงอ้อมไปไกลเกือบสิบกิโลเมตรทำให้เสียเวลา ยิ่งฝนตกแบบนี้รถยนต์ยิ่งไม่ควรมาเลยติดหล่มแน่นอน เคยถามคนที่อยู่มาก่อนเขาก็ร้องหน่วยงานไปทุกปีหลายครั้งแต่ก็เงียบ โดยเฉพาะเวลาไปโรงพยาบาลลำบากมาก หากเจ็บป่วยกะทันหันอาจเกิดเหตุการณ์ศูนย์เสียเพราะไปถึงมือแพทย์ล่าช้าอีกด้วย

ขณะที่ นายสาทิช บวชสันเทียะ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา เขตอำเภอพิมาย กล่าวว่า ถนนเส้นนี้ เป็นเขตรับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ขณะนี้ตนเองได้ส่งเรื่องไปทางสำนักกองช่าง องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมาแล้ว เพื่อประสานฝ่ายจัดซื่อจัดจ้างเรียบร้อยแล้ว และจะได้จัดสรรงบประมาณลงมาซ่อมแซมในเร็ววัน ซึ่งถนนที่พังมีระยะกว้าง 5 เมตร ยาว 1 กิโลเมตร งบประมาณ 3 ล้านบาท ยังไงก็ต้องขออภัยประชาชนทุกท่าน ซึ่งขณะนี้ตนเองทวงถามไปทาง ร้อยตรีหญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ‘ซึ่งขณะนี้เรื่องอยู่ในขั้นตอนจัดซื้อจัดจ้างแล้วอีกไม่นานจะลงไปซ่อมแซมให้เร็วที่สุดขอให้ประชาชนรออีกสักหน่อยทางเราไม่ทอดทิ้งประชาชนแน่นอน นายสาทิช บวชสันเทียะ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา เขตอำเภอพิมาย

 

                                                                                                               

โคราช ยกระดับการท่องเที่ยว จัดโครงการเจ้าบ้านน้อยเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบครบวงจร

วันที่ 6 สิงหาคม 2561  ที่สวนวิภา ต.ไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา นายมนตรี ปรียางกูล ผู้อำนวยการสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด นครราชสีมา พร้อมด้วยนางรุ่งทิพย์ บุกขุนทด ผู้อำนวยการการท่องเที่ยว สำนักงานนครราชสีมา ร่วมเปิดอบรมเจ้าบ้านน้อยรักษ์เขาใหญ่-วังน้ำเขียว รุ่นที่ 1 พร้อมบรรยายหัวข้อ “การท่องเที่ยวกับชุมชน”โครงการเจ้าบ้านน้อยรักษ์เขาใหญ่-วังน้ำเขียวส่งเสริมเยาวชนส่งเสริมท่องเที่ยวยกระดับครบวงจร ครั้งที่1

 

ณ.สวนวิภา ต.ไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา นายมนตรี ปรียางกูล ผู้อำนวยการสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด นครราชสีมา พร้อมด้วย

นางรุ่งทิพย์ บุกขุนทด ผู้อำนวยการการท่องเที่ยว สำนักงานนครราชสีมา ร่วมเปิดอบรมเจ้าบ้านน้อยรักษ์เขาใหญ่-วังน้ำเขียว รุ่นที่ 1ภายใต้โครงการยกระดับการท่องเที่ยวครบวงจร ระยะเวลา6วันระหว่างวันที่6-8 สิงหาคม,14-16สิงหาคม 2561 พร้อมบรรยายหัวข้อ “การท่องเที่ยวกับชุมชน”เพื่อส่งเสริมเยาวชนส่งเสริมการท่องเที่ยวแหล่งท่องชุมชนในพื้นที่รวมทั้งเสริมสร้างทักษะเยาวชนการเป็นเจ้าบ้านที่ดีต้อนรับนักท่องเที่ยวและเสริมสร้างเยาวชนรุ่นใหม่อนุรักษ์แหล่งท่องเทียวแหล่งธรรมชาติยั่งยืน

 

โคราชเตรียมปล่อยขบวนรถบรรทุก ช่วยเหลือ สปป.ลาว

นครราชสีมา – โคราชเตรียมปล่อยขบวนรถบรรทุก จากลานย่าโม มุ่งหน้าสู่จังหวัดอุบลราชธานี  เพื่อส่งต่อไปยัง สปป.ลาว

วันนี้( 30/7/61 )เวลา 10.00 น. ณ หน้าลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ขอเชิญทุกท่านร่วมปล่อยขบวนรถบรรทุกสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยสปป.ลาวโดยมีท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานการปล่อยขบวนรถบริจาคฯ เพื่อนำไปมอบที่ จ.อุบลราชธานี

ฮุก 31 โคราชและชมรมดำน้ำโคราชออกเดินทางเร่งช่วยเหลือ สปป.ลาว

ฮุก31นครราชสีมาและชมรมดำน้ำโคราช ออกเดินทาง เร่งรัดลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนเหตุน้ำท่วม ที่ สปป.ลาว พร้อมลงพื้นที่เช้านี้

จากกรณี สปป.ลาวประสบภัยน้ำท่วมฉับพลัน หลังเขื่อนในแขวงอัตตะปือแตก มีรายงานคนสูญหายนับร้อยคน และคาดว่าจะมีผู้เสียชีวิตหลายราย โดยเจ้าหน้าที่ได้เร่งอพยพประชาชนผู้ประสบภัย นายเกียรติคุณ ชาติประเสริฐ เอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ เผยว่า ขณะนี้ทางการลาวสามารถควบคุมสุานการณ์น้ำได้แล้ว เบื้องต้น น้ำไม่ทะลักเพิ่ม แต่ยังมีจุดที่น้ำยังคงท่วมสูง

        ทั้งนี้    เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2561 เวลา 20.00น. มูลนิธิพุทธธรรม 31 นครราชสีมา หน่วยเฉพาะกิจ ทีมช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำ (ส่วนหน้าชุดที่1) และชมรมดำน้ำโคราช พร้อมเรือยนต์กู้ภัย เจ็ทสกี ชุดปะดาน้ำ อุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น พร้อมบุคลากรด้านกู้ชีพ-กู้ภัย จัดกำลังพล มุ่งหน้าลงพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบเหตุน้ำท่วม ในเขตประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว เพื่อร่วมอพยพประชาชนและค้นหาผู้สูญหายภายในน้ำจากเหตุดังกล่าว ที่หมายประมาณเวลา 06.00น.ถึงพร้อมเข้าพื้นที่

ขอองค์พระบารมีของ องค์พระ องค์ฮุกโจ้ว คุณย่าโม ดวงทิพย์วิญญาณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชรัชกาลที่ ๙ พระบารมีของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินินาถ ในรัชการที่ ๙ พระบารมีขององค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ์ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ ๑๐ และพระบรมวงศานุวงศ์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย จงดลบันดาลให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยทุกท่านจงปฏิบัติงานด้วยความราบรื่น ประสบแต่ความโชคดีและปฏิบัติงานโดยปลอดภัย.. สาธุ

ขอบคุณภาพ : ข้อมูล

ข้อมูลภาพ ; หน่วยเฉพาะกิจ ฮุก31 ทีมช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำ
ข้อมูล : ผอ.หลุยส์ ฮุก31

บวงสรวงสร้างสะพานบุญ วัดพระนารายณ์ โคราช

นครราชสีมา – พิธีบวงสรวงสร้างสะพานบุญ วัดพระนารายณ์ โคราช
“พิธีบวงสรวงสร้างสะพานบุญ”พระธรรมวรนายกเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมาเจ้าอาวาสวัดพระนารายณ์วรวิหารเมื่อวันที่ 27มิถุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 12.00 น.ที่วัดพระนารายณ์วรวิหารได้จัดให้มีพิธีใหญ่บวงสรวงเทวาภิเษกและพุธาภิเษกร่วมเกจิดังสายโคราชประธานพิธีพระธรรมวรนายก(หลวงปู่ใหญ่),หลวงพ่อคูณ วัดบัญลังค์,พระครูสังข์รักษ์(ครูบากฤษณะ อินทวัณโณ),อ.ประทวน ถ้ำดาวเขาแก้ว,พระครูโกวิทกิติธรรมสาร และพระสีหราชสมาจารมุนีย์ร่วมพิธีบวงสรวงจัดสร้างวัตถุมงคลรุ่นพิเศษเทพ3ภพเพื่อหาทุนสร้างสะพานบุญวัดพระนารายณ์ฯ


หากท่านใดมีจิตศรัทธา สามารถร่วมในบุญครั้งนี้ โดยติดต่อที่วัดพระนารายณ์มหาราช วรวิหาร จังหวัดนครราชสีมา ที่อยู่เลขที่ 389 ถนน จอมพล ตำบล ในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา นครราชสีมา 30000 โทรศัพท์ 044 255 066