ซีพีเอฟโคราชส่งมอบอาหารบรรเทาความเดือดร้อนชาวบ้านต่อเนื่อง ขณะที่ภาครัฐชื่นชม วางมาตรการดูแล พนง.และชุมชนได้ดี

ซีพีเอฟโคราชส่งมอบอาหารบรรเทาความเดือดร้อนชาวบ้านต่อเนื่อง
ขณะที่ภาครัฐชื่นชม วางมาตรการดูแล พนง.และชุมชนได้ดี

(นครราชสีมา) ซีพีเอฟ นครราชสีมายืนหยัดการส่งมอบความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะชุมชนรอบโรงงาน ล่าสุด ได้สนับสนุนเนื้อไก่สด ภายใต้โครงการ “CPF ส่งอาหารจากใจ ร่วมต้านภัยโควิด-19” ตามนโยบายเครือซีพี ให้กับผู้นำชุมชนหมู่บ้านโซนกอโจด-ไทรย้อย ต.ท่าเยี่ยม จ.นครราชสีมา รวม 4 หมู่ 37 ครอบครัว เพื่อให้ชุมชนนำไปทำข้าวมันไก่ แจกให้ผู้ที่กักตัวอยู่ที่บ้าน โดยมีสาธารณสุขจังหวัด และ อสม. ร่วมลงพื้นที่แจกจ่ายช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิดด้วย นอกจากนี้ ยังมอบเนื้อไก่-เนื้อหมูอีกกว่า 300 กก. ผ่านท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เพื่อสนับสนุนโรงครัวสภากาชาดไทย นำไปปรุงอาหารให้ประชาชน ขณะที่ก่อนหน้านี้ ได้ลงพื้นที่ มอบถุงยังชีพและหน้ากากอนามัย ในพื้นที่ตำบลสารภี อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกเหนือจากการบรรเทาความเดือดร้อนให้พี่น้องในชุมชนต่างๆแล้วโรงงานแปรรูปเนื้อไก่ซีพีเอฟนครราชสีมา ได้ดำเนินมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างเข้มข้น ด้วยการจัดทำมาตรการบับเบิลแอนด์ซีล เพื่อปกป้องทั้งพนักงานและชุมชน ตามแนวทางที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค.กำหนด เพื่อควบคุมโรคและจำกัดพื้นที่การระบาด เน้นย้ำการจัดกลุ่ม คุมได้ไว ลดการแพร่กระจาย โดยแยกผู้ติดเชื้อออกไปรักษา ส่วนกลุ่มเสี่ยงได้จัดที่พักกักตัวอยู่ภายในโรงงานและสถานที่พักที่กำหนด พร้อมจัดรถรับส่ง โดยไม่มีพนักงานคนใดออกนอกสถานที่พักหรือนอกเส้นทางระหว่างที่พักกับโรงงานได้

นพ.ชาญชัย บุญอยู่ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ได้กล่าวชื่นชมซีพีเอฟที่ให้ความร่วมมือ ดำเนินมาตรการต่างๆอย่างเคร่งครัด สอดคล้องกับ นางสาวทิพวรรณ ศรีทรมาศ นักระบาดวิทยา ซึ่งได้กล่าวชมว่าการทำบับเบิลแอนด์ซีลของซีพีเอฟนครราชสีมามีการทำเป็นระบบมีการแยกพนักงานที่มีความเสี่ยงออกจากพนักงานปกติอย่างเด็ดขาดชัดเจนก่อนนำเข้าระบบบับเบิลแอนด์ซีล ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมากทำให้ไม่พบพนักงานป่วย หรือมีอาการหนักเพิ่มเติม

นอกจากนี้ พนักงานในโรงงานยังได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 กันแล้วเกือบ 100% ทำให้ทุกคนมีภูมิคุ้มกันที่ดี เมื่อผนวกกับมาตรการบับเบิลแอนด์ซีลที่เข้มข้น ทำให้โรงงานแห่งนี้จัดเป็นต้นแบบโรงงานแปรรูปเนื้อไก่ที่สามารถใช้เป็นแนวทางในการจัดการระบบป้องกันโควิด-19 ได้ดีที่สุดแห่งหนึ่งของนครราชสีมา./

#แจกฟรีทุกคนที่ฉีดครบ2เข็ม

สำหรับผู้ที่รับวัคซีนครบ 2 เข็ม โดยไม่จำกัดยี่ห้อวัคซีน สถานที่ฉีด และภูมิลำเนา สามารถติดต่อรับได้ฟรีทุกคน ที่เซ็นทรัลโคราช ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 เป็นต้นไป บริเวณด้านหน้า Korat Hall ชั้น 4 เวลา 09.00-16.30 น. โดยแสดงหลักฐานการรับวัคซีนกับเจ้าหน้าที่

สำหรับแคมเปญริสแบนด์ I Got Vaccinated เป็นโครงการโดยภาคเอกชน กลุ่มพลังใจโคราช และ HackVax Korat เป็นผู้จัดทำริสแบนด์มาแจกให้ฟรี โดยร่วมมือกับกลุ่มห้่ง ร้าน และธุรกิจต่างๆ ในจังหวัดนครราชสีมา มอบเป็นส่วนลดและสิทธิพิเศษ ให้กับผู้ที่สวมริสแบนด์ มีร้านต่างๆ ในจังหวัดเข้าร่วมแคมเปญมากมาย เพื่อกระตุ้นให้เศรษฐกิจในจังหวัดสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้โดยเร็วที่สุด

#ชน3คันรวด #แหกระจาย (วันที่ 30 สิงหาคม 2564)

เวลา 06.30 น.เกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถยนต์กระบะและรถเก๋ง ที่หน้าปั้มน้ำมัน ปตท.บ้านโคกคอนอินทร์
ตำบลมะเริง อำเภอเมือง
จังหวัดนครราชสีมา
ที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 2 ราย ทั้ง 2 รายมีแผลถลอกตามร่างกาย รู้สึกตัวดี
กู้ภัยฮุก31 นำผู้ได้รับบาดเจ็บรายที่1 คนขับรถ จยย.ฮอนด้าเวฟ100สีดำ-เทา กลน 404 จันทบุรี ทำให้แหที่เก็บไว้ใต้เบาะกระจายออกมา ส่งโรงพยาบาลมหาราช และรายที่2 คนขับรถยนต์กระบะมาสด้า สีขาว 8977 นครราชสีมาส่งโรงพยาบาลป.แพทย์ 2
ผู้ได้รับบาดเจ็บรายที่1ชื่อนายลิขิต เข็มสุวรรณ์ อายุ 44 ปีที่อยู่ 13/1 หมู่ 2 ตำบลมะเริง
อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
ผู้ได้รับบาดเจ็บรายที่2ชื่อนายวทัญญู รัตนา อายุ 29 ปี ที่อยู่ 679 ตำบลในเมือง อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา
ส่วนรถคันที่3 โตโยต้า โคโรล่า อัลติส สีขาว 6ภค916 กรุงเทพมหานคร ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

Cr.แจ้งข่าวสารโคราชบ้านเอง

หลวง​ปู่​ไม​ อินฺทสิริ​ ละสังขาร​แล้วด้วย​อาการ​สงบ​ ณ​ โรง​พ​ยา​บ​า​ลรามาธิบดี​ กรุงเทพ​มหานคร

หลวง​ปู่​ไม​ อินฺทสิริ​ ละสังขาร​แล้วด้วย​อาการ​สงบ​ ณ​ โรง​พ​ยา​บ​า​ลรามาธิบดี​ กรุงเทพ​มหานคร​ เมื่อเวลา​ ๐๑.๑๒​ น.​ ตรงกับวัน​ศุกร์​ที่​ ๒๗ สิงหาคม​ ๒๕๖๔​ สิริอายุ​ ๗๓​ ปี​ ๗​ เดือน​ ๒ วัน​ ๕๔​ พรรษา​

ชีวประวัติและปฏิปทาหลวงปู่ไม_อินฺทสิริ

วัดป่าเขาภูหลวง ต.ระเริง อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา​

ชีวิตครอบครัววัยเด็ก

หลวง​ปู่​ไม​ อินทสิริ​ ถือกำเนิดเมื่อวันอาทิตย์​ที่​ ๒๕​ มกราคม​ ๒๔๙๑​ ตรงกับวันพระขึ้น​ ๑๕​ ค่ำ​ เดือน​ ๒​ ปีชวด​ เกิดในสกุล​ “จันทร์​เหล็ก” บิดาชื่อ​ “นายด้วง” มารดาชื่อ​”นางจันทร์ศรี” เกิด​บ้านเลขที่​ ๒๐​ หมู่​ ๗​ ตำบลคอนสาย​ อำเภอกู่แก้ว​ จังหวัด​อุดรธานี

ท่านเป็นคนที่มีนิสัย รักพ่อรักแม่ รักญาติพี่น้อง เคารพนับถือญาติทุกคน ดี ไม่ดี ก็เคารพ ไม่เคยแสดงอารมณ์ออกมา ถึงแม้บางครั้งจะน้อยใจอยู่บ้าง ท่านอยากบวชตั้งแต่เรียนอยู่ประถมปีที่ ๔ ขอพ่อ พ่อก็ไม่ให้ พ่อขอให้ช่วยงานบ้าน ช่วยแม่เลี้ยงน้อง เพราะน้องยังเล็ก ต้องอาศัยท่านช่วยงานบ้าน ตักน้ำ ตำข้าว ท่านมีพี่น้องทั้งหมด ๗ คน ชาย ๖ คน หญิง ๑ คน คุณพ่อขอให้น้อง ๆ โตก่อนค่อยบวช

ตอนอายุประมาณ ๑๐ – ๑๑ ปี ไปอยู่หนองบัวลำภู เช้าท่านจะนำควายไปเลี้ยงตามทุ่งนา ท่านชอบนั่งอยู่ใต้ร่มไม้ ” ใต้ต้นค้อ” ท่านชอบนั่งหลับตาเป็นนิสัย แต่ไม่ได้ภาวนา ท่านมักจะเห็นสวรรค์เป็นหอปราสาท และเห็นสักกเทวราช (พระอินทร์) ใส่โจงกระเบน เหาะลงมาสอนท่านสวดมนต์คาถา จนท่านท่องจำได้ จนอายุ ๑๖ – ๑๗ ปี ก็ยังเห็นท่านอยู่ ท่านจะสอนธรรมะ คาถาป้องกันตัว อยู่ยงคงกระพัน คาถาเจ็บไข้ได้ป่วย เวลาท่านสักกเทวราชจะกลับ ท่านจะสั่งว่า เวลามีเรื่องอะไร ให้นึกถึงพ่อ ท่านเรียกตัวเองว่า พ่อ ท่านจะลงมาช่วย พระอาจารย์ท่านไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังนอกจากคุณพ่อ คุณพ่อท่านให้เขียนคาถาเอาไปท่อง เพราะเหตุนี้ เวลามีคนเจ็บไข้ได้ป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ มาหาพระอาจารย์ไม ท่านเป่าให้ บอกหาย คนนั้นก็หาย

อายุ ๑๒ – ๑๓ ปี ท่านทำงานบ้านทุกอย่าง ช่วยแม่ตำข้าว ตักน้ำ ทำอาหาร และรับจ้างทุกอย่าง จนเก็บเงินซื้อควายได้ ๒ ตัว ตอนอายุ ๑๓ ปี ( เปรียบเทียบกับคนอายุ ๖๐ บางคนยังซื้อควายไม่ได้เลย ) ท่านเป็นคนที่ไม่กระตือรือร้นในการแต่งตัว ใส่เสื้อผ้าแบบไหนก็ได้ ไม่ชอบเที่ยว ดูหนัง ร้องรำทำเพลง แต่รำกลอนเป็นเพราะพ่อสอนให้ พ่อเคยเป็นหมอลำเรียกโจทย์แจ้ ตอบปัญหาทางด้านประวัติศาสตร์ ธรรมะ ภาษาไทย บาลี มคธ พ่อสอนเก่งมาก พ่อสอนให้รำ เพราะว่าเป็นประวัติศาสตร์คำสอนในทางศาสนา

อายุ ๑๔ ปี คุณพ่อเสีย ก่อนเสียพ่อป่วยอยู่เป็นปี วันนั้นเฝ้าพ่ออยู่คนเดียวประมาณบ่าย ๓ โมง พ่อสั่งว่าอีก ๓ วันพ่อจะตายให้เลี้ยงน้องให้โตก่อน แล้วบวชให้พ่อด้วย มีคำหนึ่งที่พ่อสั่งไว้ว่า ถ้าพ่อตายแล้วแม่คิดจะมีสามีใหม่ อย่าไปห้ามแม่นะ แต่อย่าให้สามีใหม่มารังแกน้อง อยู่มาอีกปีเศษ มีคนมาชอบแม่ ขอแต่งงาน แม่ถามว่าจะให้แม่แต่งงานหรือไม่ ก็ถามแม่ว่าจะแต่งทำไม แม่ว่าจะได้มาเลี้ยงน้อง ดูแลงานบ้าน พ่อเลี้ยงเป็นนักเลง เล่นการพนัน ชอบขโมยของมาเล่นการพนัน อยู่มาวันหนึ่ง น้องชายคนติดกัน กลับมาจากโรงเรียน แม่บอกให้ไปไล่ควายจากทุ่งนากลับเข้าบ้าน แต่น้องชายไม่รีบไป แม่ก็บ่น พ่อเลี้ยงเสริมว่า ไม่เชื่อฟัง พ่อแม่ จะฆ่ามันตาย จับไม้ค้อนขว้างถูกใส่ส้นเท้าเป็นแผล น้องชายร้องไห้ ตอนนั้นพระอาจารย์ไมอายุ ๑๕ ปี เห็นพ่อเลี้ยงทำอย่างนั้นเสียใจมาก กลางคืนท่านฝนมีดยาว ๑๕ เซนติเมตร อยู่ ๓ วัน ๓ คืน คิดจะฆ่าพ่อเลี้ยง จะแทงตอนเขานอน แต่ก็คิดอีกว่า ฆ่าเขาแล้ว จะหนีอย่างไร เพราะตอนนั้นย้ายบ้านไปอยู่หนองบัวลำภู บ้านไกลจากบ้านเก่าที่ จ.อุดร ก็กลัวจะมีโทษ กลัวโดนจับ กลัวไม่ได้ดูน้อง ผ่านไป ๒ – ๓ วัน จนยับยั้งสติอารมณ์ไว้ได้ เป็นจิตที่รักน้องมากที่สุด ไม่อยากให้ใครมารังแก

ต่อมา ญาติพี่น้องทางบ้านเก่าที่อุดรพากันไปรับมาที่บ้านเกิด บ้านเก่า ซื้อไร่ ซื้อนาใหม่ พ่อเลี้ยงก็ตามมาอีก ก็ยังเล่นการพนันเหมือนเดิม ช่วงนั้นเดือนมีนาคม ชาวอีสานแต่ละบ้านจะจัดงาน มีงาบุญ มีเทศน์ผะเหวต กลางคืนมีมหรสพ หมอลำ ตอนเช้าตื่นสาย แม่ปลุกว่าไม่ไปไร่หรือ เพราะปกติต้องไปขุดไร่ ไถไร่ พวกเราตื่นสายประมาณโมงเศษ ๆ พอแม่บ่น พ่อเลี้ยงก็บ่น ทั้ง ๆ ที่พ่อเลี้ยงไม่เคยช่วยงานอะไรเลย พี่ชายคนที่ติดกัน ดึงปืน พระอาจารย์ก็ชักมีด พี่ชายคนโตก็มาห้าม พ่อเลี้ยงก็หนีไปตั้งแต่บัดนั้น ไม่กลับมาอีก ชีวิตคนมีพ่อเลี้ยง แม่เลี้ยงก็แบบนี้แหละ

อายุ ๑๗ ปี ไปช่วยงานญาติพี่น้อง ลุง น้า บ้าง ปลูกอ้อย ข้าวโพด ถั่วลิสง ปลูกผักขาย ส่วนมากเป็นน้าของแม่ ซึ่งท่านเรียกพ่อใหญ่ เพราะเขามีลูกเล็กช่วยงานยังไม่ได้

สู่ร่มกาสาวพัสตร์

อยู่มาอายุ ๑๘ ย่าง ๑๙ ปี ลุงอยากให้มาบวช เพราะที่วัดไม่มีพระเณรมาบวช อีกอย่างเห็นสาวๆ มาคุยเล่นด้วย แต่พระอาจารย์มีจิตใจไม่คิดจะมีลูกเมีย ท่านชอบพูดเล่นกับผู้หญิงสาวๆ ไม่คิดจะแต่งงาน แต่นิสัยจะรังเกียจผู้หญิงที่มาพูดให้ทางผู้ชาย แต่มีความคิดในใจว่า จะแต่งงานกับผู้หญิง ที่มีความรักจริงซื่อสัตย์ บริสุทธิ์ แต่ถ้าไม่ซื่อสัตย์สุจริต บริสุทธิ์ต่อเรา เราจะไม่ยุ่งเด็ดขาด ผู้หญิงที่จะมาแต่งงานกับพระอาจารย์ ถ้าไม่ได้แต่งงานถูกต้องตามกฎหมาย จะไม่แตะต้องผู้หญิงคนนั้น ท่านมีความคิดเช่นนี้ ก็เลยมีความมั่นใจตนเองว่า จะไม่ล่วงเกินผู้หญิงคนใดทั้งสิ้น

แต่ลุงไม่เชื่อว่า จะมีคนคิดแบบพระอาจารย์ ลุงขอร้องให้บวช กลัวจะมีเมียก่อน ลุงเคี่ยวเข็ญทุกวัน สุดท้ายจึงตกลงใจบวช ตกลงไปเข้านาค ก่อนเข้านาคสัญญากับลุงว่า ถ้าหลานไปบวชออกพรรษาเมื่อไร ก็สึกเมื่อนั้น อย่าห้าม ก็เลยไปเข้านาค ๑ เดือน บรรพชาเป็นสามเณรไม เมื่อวันที่ ๑๑ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๐๙ ที่วัดศิริวัฒนา จ.อุดรธานี บวชเป็นเณรอยู่ ๒ พรรษา ( ๑ ปี ๘ เดือน ๑๙ วัน)

ระยะเวลาเป็นเณร อยู่อุปัฎฐากครูบาอาจารย์ อาหารไม่ค่อยมี ไปตัดยอดหวาย หน่อไม้ ตอนเช้าไปทำอาหาร เช่น แกงขี้เหล็ก เลี้ยงถวายครูบาอาจารย์ ถ้าพระ เณรไม่มา พระอาจารย์ตอนเป็นเณร กิจวัตรประจำวัน ตักน้ำจากบ่อเป็นน้ำสรงครูบาอาจารย์ ทุ่มหนึ่งทำวัตรเย็น ๒ ทุ่ม เดินจงกรม ๒ ทุ่มครึ่งนั่งสมาธิ ท่านมีความตั้งใจปฎิบัติ เข้มงวดกวดขัน

สัจจธรรม

ท่านพระอาจารย์ปฎิบัติธรรมได้ตั้งแต่เป็นเณร อายุ ๑๘ ปี จิตของท่านจะน้อมถึงอดีต ท่านคิดว่าระยะเวลาที่ผ่านมาเสียเวลาไปมาก สร้างบาปมาเยอะตั้ง ๑๘ ปี กลัวจะกลับไปเป็น ฆราวาสทำบาปอีก ท่านเคยตั้งสัจจะไว้หลายภพ หลายชาติ เริ่มตั้งสัจจะตั้งแต่เป็นหนุ่ม คนธรรมดาจะคิดเรื่องมีครอบครัวว่าถ้าบวชสึกออกมาอายุ ๒๐ ปี จะต้องมีครอบครัว หาเงินหาทองไว้ก่อนเพื่อให้มีอยู่มีกิน จะแต่งงานกับผู้หญิงมีความบริสุทธิ์ ถ้าผู้หญิงไม่บริสุทธิ์ จะไม่แตะต้องคนนั้นเลย แต่ถ้าผู้หญิงคนนั้นบริสุทธิ์ เรายังไม่ได้ขอแต่งงานก่อน เราจะไม่ถูกเนื้อต้องตัวเลย คิดอยู่เช่นนี้ ปีหนึ่งผ่านไป ผู้หญิงก็หนีไปแต่งงานหมด ไม่มีคนบริสุทธิ์เลย ท่านเลยผ่านพ้นมาได้ ไม่หลงในภพในชาติมากเหมือนคนอื่น

ตอนที่ปฏิบัติใหม่ ๆ เราเพิ่งจะฝึกปฏิบัติธรรม ตอนเดินจงกรมไม่เท่าไหร่​ แต่พอไปนั่งสมาธิ มันเห็นทุกข์ เห็นทุกข์ทันทีเลย พอนั่งไป ๒๐-๓๐ นาที นี่มันรู้เลย ทุกข์มันเกิดขึ้น เหน็บมันไม่รู้มาจากที่ไหน พอเรานั่งไปถึง ๒๐-๓๐ นาที มันจะขึ้นเลย ขึ้นที่เท้าเราเสียก่อน แล้วขึ้นมาตามขา จนขึ้นตามสันหลัง ขึ้นไปบนศีรษะ​ ทำให้จิตใจท้อแท้ไปหลายครั้งหลายหน

นี่สู้ด้วยตนเองมา ตอนบวชเข้ามาใหม่​ๆ ยังไม่รู้เดียงสาอะไร การศึกษาก็ยังไม่มี เพราะว่าเราเพิ่งบวชใหม่ โอกาสที่จะได้ไปศึกษาธรรมะก็ยังไม่มี แต่วันไหนว่างๆ ก็พอได้อ่านประวัติพระพุทธเจ้า อ่านหนังสือพุทธประวัติเล่มหนึ่ง แต่ทำอย่างอื่นนั้นยังไม่รู้ แต่ครูบาอาจารย์สอนให้เรานั่งสมาธิ นั่งสมาธินั่งแบบไหน เดินจงกรมเดินแบบไหน ท่านบอกเรา เวลาเดินก็กำหนดเอาต้นไม้ที่ห่างจากกัน ๒๐-๓๐ เมตร แล้วเดินจากต้นไม้ต้นนั้น ไปต้นไม้ต้นนั้น มีจุดหมายปลายทางเดินแล้วก็มานั่ง ตอนนั่งมันจะเป็นทุกข์ได้ง่ายกว่าเดิน

เพราะอิริยาบถนั่งจะเป็นการนั่งอยู่ท่าเดียว ถ้าเรายังไม่เกิดความเคยชิน เราจะนั่งไม่ได้นาน อันนี้เป็นครั้งแรกที่เราเริ่มปฏิบัติธรรม มองทางสุขไม่มีเลย มีแต่ทุกข์อย่างเดียว การปฏิบัติธรรมอันดับแรกมองเห็นแต่ทุกข์อย่างเดียว ไม่มีสุขเพราะมันเจ็บปวด มันทรมาน ทั้งที่เราอยากรู้อยากเห็นอยากได้ธรรมะ อยากให้จิตสงบเป็นสมาธิ แต่สิ่งที่รบกวนก็ดลบันดาลอยู่อย่างนั้น ทำให้จิตใจของเราท้อถอยอยู่ตลอดเวลา

นั่งแต่ละวันได้ ๒๐-๓๐ นาที ก็ลุกขึ้นแล้ว
ไปเดินแล้วเปลี่ยนอิริยาบถใหม่แล้ว เดินไปเป็นชั่วโมง มานั่งอีก ๒๐-๓๐ นาทีก็ไปอีกแล้ว พยายามอยู่อย่างนี้ก็แพ้อยู่อย่างนี้ ทำเป็นเดือนก็อยู่อย่างนี้ ทีนี้ทำยังไงถึงได้ตัดสินใจ การตัดสินใจคือตัดสินใจด้วยการได้ยินได้ฟัง จากครูบาอาจารย์ท่าอบรมสั่งสอนเรา ครูบาอาจารย์ท่านแสดงอภินิหารให้เราเห็น แสดงอภินิหารแบบไหน ท่านมีความรู้พิเศษ ท่านสอนเราให้ปฏิบัติแล้วเราทำไม่ได้ ท่านค่อยมาเตือนเราทีหลังพอเราเจอทุกข์ ทีนี้สิ่งที่มันเกิดขึ้นเป็นสิ่งที่จูงใจ ให้เราปฏิบัติกล้าตัดสินใจต่อสู้ จริงๆ จังๆ แล้วนั่น คือ

พระอาจารย์ของเราท่านบอกว่า วันนี้ มีพระท่านกำลังเดินทางมา ระยะทางนั่น ๗-๘ กิโลเมตรจากวัดเราไปหาวัดท่าน

ฉันเช้าเสร็จท่านบอกว่า ไปล้างบาตรแล้วเอาบาตรเราไปส่งกุฏิ อย่าเพิ่งไปนะ ท่านพูดอย่างนี้ ทีนี้อาตมาก็เลยเอาบาตรล้างบาตรเสร็จเรียบร้อยก็เอาบาตรไปไว้ที่กุฏิ
ก็นั่งคอยท่านอยู่ ซักพักท่านก็ขึ้นกุฏิไป

พอท่านขึ้นกุฏิไป ท่านบอกว่า ตอนนี้มีพระท่านกำลังเดินทางมา พระองค์นั้นชื่อ อาจารย์บุญเกิด ท่านอยู่วัดป่าศรีคุณาราม บ้านจีบ อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี ส่วนอาตมาอยู่วัดป่าศิริวัฒนา บ้านโนนถั่วดิน

ท่านอาจารย์องค์ที่เป็นอาจารย์ของอาตมา ชื่อพระอาจารย์ศรี อุจโย ท่านบอกว่าพระอาจารย์บุญเกิดกำลังเดินทางมา ท่านจะไปบ้านเลาใหญ่ ไปขอไม้ไผ่กับท่านอาจารย์สาลี วัดป่ามัจฉิมวงศ์ ที่อ.กุมภวาปี มาทำซี่กลด เพราะว่าไม้ไผ่ในสมัยนั้น วัดป่ามัจฉิมวงศ์เป็นวัดเก่าแก่
ไม้มันแก่ดี เอามาทำซี่กลดได้มอดมันไม่กิน แต่ส่วนวัดพวกเราเป็นวัดใหม่ ไม้ไผ่ยังไม่มี

ท่านก็เลยบอกว่าท่านกำลังเดินทางมา มีพระองค์หนึ่งใส่แว่นตาดำเดินตามหลังมา มีเด็กวัด ตัวเล็กๆ สะพายย่ามเดินอยู่กลาง ท่านว่าอย่างนี้ แล้วท่านก็บอกให้เอาเสื่อมาปู เอากา

สภาวัฒนธรรมโคราชผนึกกำลังผนึกกำลังกับวัฒนธรรมจังหวัด พร้อมด้วยเครือข่าย 32 อำเภอ สนับสนุนข้าวกล่องและน้ำดื่มมอบให้ รองนายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยคณะ เพื่อส่งต่อแก่บุคลากรทางการแพทย์ สู้ภัยโควิด 19 ณ เดอะมอลล์ โคราช

นางเอมอร  ศรีกงพาน ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา  พร้อมด้วย นาย ไชยนันท์ แสงทอง วัฒนธรรมจังหวัดนครราชีมา, นางสมใจ อินทรทรัพท์  รองประธานสภาวัฒนธรรม จังหวัดนครราชสีมา, พันเอกนเรศ  พิลาวัล , นายสมชาย รักษ์กลาง ,นายฐิตรัตน์ พงษ์พุทธรักษ์ นายกสมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา และคณะกรรมการสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมาพร้อมด้วยเครือข่าย 32 อำเภอ ได้นำอาหารกล่อง จำนวน 250 กล่อง และน้ำดื่ม  จำนวน 1,200  ขวด  โดยได้รับการประงานงานด้วยดีจาก คุณรัจริน วงศ์จิต นายกสมาคมแม่บ้านสาธารณสุข จังหวัดนครราชสีมา  เพื่อนำไปมอบให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ณ ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์โคราช  โดยได้รับเกียรติจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  พร้อมคณะ เป็นผู้รับมอบ

จากนั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  พร้อมคณะ ได้เข้าพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมในการทดลองระบบ  ณ หน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ศูนย์การค้าเดอะมอลล์  โคราช  ก่อนจะทำการทดสอบระบบ ระหว่างวันที่ 24-31 พฤษภาคม 2564  เพื่อฉีดวัคซีนให้เฉพาะ 7 กลุ่มโรคเสี่ยง ที่ลงทะเบียนผ่านระบบหมอพร้อม และหน่วยงานที่ลงทะเบียนกับทาง สสจ. เป็นที่เรียบร้อย   ทั้งนี้ สถาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา วัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยคณะกรรมการทุกท่าน ยังคงเดินหน้าเพื่อร่วมแบ่งปันน้ำใจ พร้อมด้วยการช่วยบอกกล่าวประชาสัมพันธ์รณรงค์ให้ประชาชนสนใจในการฉีดวัคซีนเพิ่มมากขึ้น

โคราชมียอดผู้เสียชีวิตจากโควิดเพิ่มอีก 1 รวมเป็น 8 ราย ขณะที่พ่อเมืองประกาศปิดสถานที่เสี่ยง

สถานการณ์ covid 19 จังหวัดนครราชสีมา ข้อมูล ณ วันที่ 17 พ.ค. 64 (สรุปเวลา 22.00 น.วันที่ 16 พ.ค.)

ผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 8 ราย ตรวจพบผู้ป่วยรายใหม่ที่อำเภอ ประกอบด้วย
-อำเภอเมือง จำนวน 7 ราย
-อำเภอขามทะเลสอ จำนวน 1 ราย

พบผู้ป่วยใน 30 อำเภอ อำเภอ
รวมผู้ป่วยสะสม 811 ราย

พบผู้ป่วยใน 30 อำเภอ อำเภอ
รวมผู้ป่วยสะสม 811 ราย

รักษาหายเพิ่ม 26 ราย
รวมหายป่วยสะสม 566 ราย

รวมเสียชีวิตสะสม 8 ราย

คงเหลือรักษาตัว 237 ราย

ในขณะที่ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้มีประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อ จังหวัดนครราชสีมา ให้ปิดสถานที่เสี่ยง สถานที่บริการ ตามพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2509 ประกอบด้วย

สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด อาบน้ำ อบสมุนไพร สนามชนไก่ โรงมหรสพ สวนน้ำสวนสนุก สนามเด็กเล่น เครื่องเด็กเล่น โต๊ะสนุกเกอร์ บอลเลียด สถานที่เล่นโบว์ลิ่ง ตู้เกมส์ เครื่องเล่นเกมส์ ร้านเกมส์ ร้านอินเตอร์เน็ต สถานที่สัก เจาะผิวหนัง สถาบันลีลาศ สนามม้า

ร้านนวด เปิดได้เฉพาะนวดฝ่าเท้า และยกเว้นการนวดเพื่อรักษา

ร้านเสริมสวย เปิดเฉพาะ สระ ตัด ซอย แต่งผม ทำเล็บ ไม่มีการนั่งรอ

โดยทั้งหมดนี้ ได้มีผลบังคับใช้ วันที่ 16 พ.ค.2564

สถานการณ์โควิด-19 จ.นครราชสีมา

โคราชพบผู้ป่วยติดโควิด-19 จำนวน 3 ราย หลังจากการแพร่ระบาดในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร โดย 2 ราย เป็นพ่อค้าแม่ค้า ขายอาหารทะเลสดในพื้นที่ อ.พิมาย และ อ.สีคิ้ว ส่วนรายที่ 3 เป็นข้าราชการ อบต.ในพื้นที่ อ.บัวใหญ่ ซึ่งผู้ป่วยทั้ง 3 รายเดินทางกลับมาจากจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ผู้ป่วยและผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทั้งหมด ได้กักตัวในสถานที่ ที่ทางจังหวัดกำหนดแล้วที่ห้องประชุมมูลนิธิท้าวสุรนารี ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา

นายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขเรศสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยนายแพทย์นรินทร์รัชย์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกันแถลงสถานการณ์การแพ่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา หลังการแพร่ระบาดในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร โดยขณะนี้ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา พบผู้ป่วยแล้ว 3 ราย รายแรกพบที่ อ.พิมาย เป็นชายไทย อายุ 57 ปี อาชีพค้าขายอาหารทะเล สาเหตุที่ติดเชื้อเนื่องจากเดินทางไปจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อซื้ออาหารทะเลมาจำหน่ายในพื้นที่อำเภอพิมาย จำนวนผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเป็นคนในครอบครัว จำนวน 8 คน สัมผัสเสี่ยงต่ำ จำนวน 9 คน ในจำนวน 9 คนนี้เป็นเจ้าหน้าที่อำเภอพิมาย 8 คน ผู้ใหญ่บ้าน 1 คน รายที่ 2 เป็นผู้ป่วยหญิงไทย อายุ 47 ปี อาชีพ ค้าขายอาหารทะเล ที่ อ.สีคิ้ว โดยผู้ป่วยมีอาการเมื่อวันที่ 17 ธค .63 เข้ารักษาตัวที่ รพ.เอกชน ในพื้นที่ กทม. วันที่ 21 ธค.63 ก่อนเดินทางมาที่ อ.สีคิ้ว วันที่ 22 ธค.63 ซึ่งจากการตรวจพบติดเชื้อ โดยมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในครอบครัว จำนวน 6 คน รายที่ 3 เป็นชายไทย อายุ 43 ปี อาชีพรับข้าราชการ อบต.ในพื้นที่ อ.บัวใหญ่ เดินทางไปเยี่ยมมารดาที่ จ.สมุทรสาคร วันที่ 18 ธค.63 มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ ก่อนวันที่ 22 ค.63 เข้าตรวจที่ รพ. ปรากฏว่าพบเชื้อ มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจำนวน 9 คน โดยผู้สัมผัสเสี่ยงทุกรายได้ให้ทำการกักตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตามที่จังหวัดกำหนด นอกจากนี้การการค้นกลุ่มเสี่ยงแบบเชิงรุกพบว่ามีกลุ่มเดินทางไปส่งข้าราชการย้าย ที่ จ.สมุทรสาคร 43 ราย กลุ่มคนเดินทางกลับ 4 ราย ร้านรับอาหารทะเลขายเอง 1 ราย (จำนวน8คน) การขนส่งอาหารทะเลเข้าตลาดในพื้นที่ จ.นครราชสีมา 88 ราย และกลุ่มเดินทางจาก จ.สมุทรสาคร เป็น นศ.มทส. จำนวน 32 ราย อ.เมือง 3 ราย อ.พิมาย 6 ราย และ อ.โชคชัย 1 ราย โดยทั้งผลได้ทำการตรวจหาเชื้อแล้วไม่พบแต่ให้มีการกักตัวเป็นเวลา 14 วันขอบคุณข้อมูล : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา

มูลนิธิพรหมธรรมสถานสงเคราะห์ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา นำคณะมอบถึงยังชีพ ในตำบลกุดน้อย รวม 8 หมู่บ้าน จำนวน 80 ถุง

มูลนิธิพรหมธรรมสถานสงเคราะห์ อ.สีคิ้ว นำคณะมอบถึงยังชีพ ในตำบลกุดน้อย รวม 8 หมู่บ้าน จำนวน 80 ถุง

 

มูลนิธิพรหมธรรมสถานสงเคราะห์ อ.สีคิ้ว, นำโดยนายสิทธิศักดิ์ จันทรรวงทอง ประธานมูลนิธิฯ และคณะกรรมการศาลเจ้าพ่อพระยาสี่เขี้ยวชุดที่ 6 มูลนิธิกู้ภัยพรหมธรรมสถานสงเคราะห์อ.สีคิ้วเป็นตัวแทน นำถุงยังชีพไปมอบให้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจาก โควิด-19

ในตำบลกุดน้อย รวม 8 หมู่บ้าน จำนวน 80 ถุงใน โครงการ ชาวสีคิ้วร่วมใจต้านภัยโควิด-19 อำเภอสีคิ้ว โดยมุ่งหวังให้พี่น้องในเขตอ.สีคิ้วได้มีกำลังใจต่อสู้ในภาวะวิกฤตนี้ไปด้วยกัน และขอเป็นศูนย์กลางในการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนชาวอ.สีคิ้ว ต่อไป

ผอ.ศูนย์ฝึกเขต 3 โคราช จัดโครงการขานรับนโยบายรัฐ ฝึกอบรมวิชาชีพสู้โควิด19

ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต  3  จังหวัดนครราชสีมา ขานรับนโยบายรัฐ คัดกรองเด็ก ฝึกอบรม ให้ความรู้เรื่องการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด 19

ที่ผ่านมา  ดร.รัตนะ  วรบัญฑิต  ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 3 จังหวัดนครราชสีมา ได้ขานรับนโยบายจากกรมพินิจและคุ้มครองเด็ก กระทรวงยุติธรรม ให้เด็กและเยาวชนมีส่วนร่วมในการร่วมรณรงค์การป้องกันเชื้อไวรัส โควิด19

ทั้งนี้ ทางด้านศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 3 จังหวัดนครราชสีมา ยังได้มีการคัดกรองสำหรับเด็กแรกรับ ที่ส่งตัวเข้ามาเพื่อรับการพิจารณาจากศาล  โดยจะมีการกักตัว เป็นเวลา 14 วัน หลังจากนั้น จะทำการกักตัวโดยมีฉากพลาสติกใสกั้นทั้ง 4 ด้าน เป็นเวลาอีก 7 วัน  ก่อนที่จะได้เข้าไปอยู่กับเด็กคนอื่น ๆ เพื่อเป็นการป้องกันการต่อเชื้อไวรัสโควิด 19 สำหรับหอนอนของเด็ก ๆ ภายในศูนย์ฝึก ฯ ทั้งหอชายและหญิง ได้เพิ่มมาตรการป้องกันโดยให้มีระยะห่างของการนอน อย่างน้อย 1-2 เมตร และมีการทำความสะอาดเป็นประจำทุกวันทั้ง เช้าและเย็น

นอกจากนี้ ดร.รัตนะ  วรบัญฑิต  ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 3 จังหวัดนครราชสีมา ได้ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวว่า  ทางศูนย์ฝึกฯได้จัดทำโครงการฝึกวิชาชีพให้กับเด็กในสังกัดการควบคุม โดยแบ่งเป็น การจัดทำหน้ากากอนามัย โดยคัดเลือกเด็กหญิงที่มีความสามารถในการเย็บผ้า มาอบรมและฝึกการเย็บหน้ากากอนามัย โดย 1 วัน จะสามารถเย็บได้ถึง 400 ชิ้น เพื่อที่จะนำไปส่งมอบให้กับกรมพินิจและคุ้มครองเด็ก  ในการส่งต่อให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ต่อไป

และจัดให้มีการฝึกอบรมการทำน้ำยาเอนกประสงค์  และแอลกอฮอล์เจล ทำความสะอาด เพื่อให้เป็นความรู้ และยังได้มีการผลิตเพื่อใช้เองภายในองค์กรและแจกจ่ายไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ให้เป็นสาธารณประโยชน์ต่อสังคม   ทั้งนี้  ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 3 จังหวัดนครราชสีมา มีเด็กในการดูแลทั้งสิ้น    380  คน  เป็นชาย 360 คน และหญิง  20  คน

 

>เสียงสัมภาษณ์<<

พ่อเมืองโคราชประกาศ ผู้ติดเชื้อ โควิด19 พุ่ง 11 ราย!!

พ่อเมืองโคราชประกาศ ผู้ติดเชื้อ โควิด19 พุ่ง 11 ราย!!

 โคราชผู้ติดเชื้อโควิด 19 พุ่ง!!รายใหม่เพิ่มอีก 4 ราย  รวมในพื้นที่พบผู้ติดเชื้อแล้ว 11 ราย ผู้ว่าสั่งปฏิบัติหน้าที่ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินคุมเข้มทุกพื้นวันที่26 มีนาคม 2563)

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยนายแพทย์นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา และนายแพทย์ชุติเดช ตาบ-องครักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้ร่วมกันแถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19
โดยผู้ป่วยรายใหม่ 4 รายเพิ่มเติม ประกอบด้วย รายที่ 8 เป็นหญิง อายุ 25 ปี เป็นลูกสาวของผู้ติดเชื้อรายที่ 7, รายที่ 9 เป็นเด็กหญิง อายุ 1 ปี 2 เดือน เป็นหลานสาวของผู้ติดเชื้อรายที่ 7 เช่นเดียวกัน, รายที่ 10 เด็กหญิง อายุ 9 ปี ติดเชื้อมาจากแม่ที่กรุงเทพฯ

 ส่วนผู้ป่วยรายที่ 11 เป็นชาย อายุ 36 ปี มีประวัติไปเชียร์มวยที่สนามมวยราชดำเนิน และลุมพินี กรุงเทพฯ โดยขณะนี้ผู้ป่วยทั้ง 11 ราย ยังคงมีอาการไม่หนักมาก ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้เรียกประชุมนายอำเภอทั้ง 32 อำเภอ ของจังหวัดนครราชสีมา  เพื่อวางมาตรการในการควบคุมสถานการณ์ในระดับจังหวัด หลังรัฐบาลมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยทางจังหวัดได้ตั้งด่านตรวจ 12 จุด ตรวจเข้มการเดินทางข้ามจังหวัดของประชาชน และเตรียมบังคับใช้กฎหมายตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค รวมทั้งร้านอาหาร และสถานที่ๆ #โควิด19 #เกาะติสถานการณ์โควิด1